Skip to main content

Featured

[Replay] [Play by Posts] 2400 Cosmic Highway : The Delivery EP 3

  โครงกระดูก Leviathan ที่ยังหลงเหลืออยู่ใน Leviathan Crossing Link to Replay Part 1 Link to Replay Part 2 Replay Part 3 ในขณะที่ Dutch กับ Guillermo กำลังคุยกันเรื่องมัมมี่ Franchetti ที่ทิ้งวิชาชีวะวิทยาไปตั้งแต่ 9 ขวบได้เตรียมการต่อ Monolith เข้ากับ AI จำลองของบีแบพแล้ว “ที่เหลือก็แค่ Launch แล้วอยากมาดูด้วยกันรึเปล่า?” Franchetti เรียกเพื่อนๆมาดูโชว์ DEUS EX MACHINA "นี่คงไม่ได้ต่อเข้ากับ AI ที่เป็น Copilot ของยานใช่ไหม? หวังว่าจะใช้ Server ส่วนตัวมาทดสอบนะ จะได้ปิดสวิตช์มันได้ถ้ามีอะไรผิดพลาด" "Fran มันไม่น่าโง่ขนาดนั้นมั้ง Doc" "ได้ยินนะเฟ้ย AI ยานก็ AI ยานไม่ยุ่งอยู่แล้ว นี่ของจำลองเหมือนเอาวัวที่เราดูดจาก E-69 ไปปล่อยที่ดาวเคราะห์ Rule-31 ไง เข้าใจคร่าวๆไหม?" Franchetti อธิบายพลางทำไม้ทำมือประกอบ "ถ้าคุณพร้อมก็เริ่มการทำงานของมันได้เลย ผมเองก็อยากจะเห็นเหมือนกัน" Guillermo ชูมือให้สัญญาณ Franchetti เริ่มทำการ Launch เชื่อม Monolith ที่ได้มาใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสงสัยว่าเจ้าสิ่งนี้จะแสดงอะไรออกมาให้เห็น ส่วน Dutch ยืนเคี้ยว Protei...

[Replay] Genshin Impact: Powered by FATE

Genshin Impact Powered by FATE

0: Setting

Genshin Impact: Power by FATE เป็นโปรเจคท์ทดลองในการนำระบบและโลกของเกม Genshin Impact มาเล่นในแบบ TRPG โดยใช้ระบบ FATE Condensed เป็นแกนกลางและใส่กฏเสริมต่างๆเข้าไป (อ่านกฏฉบับแปลไทยได้ที่ https://www.fatesrdthai.com/) โดยเฉพาะเรื่องของระบบอาวุธ, พลังธาตุ และปฏิกิริยาธาตุอันเป็นเอกลักษณ์ของเกม Genshin Impact หากสนใจสามารถอ่านต่อในช่วงท้ายซึ่งจะลงรายละเอียดของระบบที่นำมาประยุกต์ใช้ แน่นอนว่ายังคงเป็นตัวทดลองที่ยังไม่ได้ทำการปรับสมดุลของอาวุธและปฏิกิริยาธาตุแต่อย่างใด

โดยเนื้อเรื่องจะดำเนินอยู่ในเมืองสมมติแห่งหนึ่งในโลก Teyvat ที่ชื่อว่า Travian ซึ่งมีสภาพสังคมและวัฒนธรรมคล้ายกับเมือง Mondstadt ในตัวเกมต้นฉบับ มีสมาคมนักผจญภัยที่คอยรับงานต่างๆจากชาวเมืองและแจกจ่ายงานนั้นให้กับเหล่านักผจญภัยในสังกัด

เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อโรงเรียนสอนเล่นแร่แปรธาตุ "อราบัส" ได้ส่งคำร้องด่วนมายังสมาคมนักผจญภัยแห่งเมือง Travian เพื่อขอให้จัดหานักผจญภัยหนึ่งทีมเพื่อออกตามสืบเรื่องรถสินค้าของโรงเรียนที่ถูกดักปล้นระหว่างทาง ซึ่งในรถนั้นมีวัตถุอันตรายอย่าง "ผลึกสายฟ้า" ที่สามารถทำปฏิกิริยากับพลังงานธาตุไฟแล้วเกิดระเบิดรุนแรงบรรทุกมาด้วย

1: The Adventurers

บรรยากาศยามเช้าของเมืองทราเวียนยังคงพลุกพล่านและเปี่ยมชีวิตชีวาเช่นเคย ที่จตุรัสใจกลางเมืองคลาคล่ำไปด้วยร้านค้าต่างๆทั้งของกินของใช้ บ้างก็มีแผงลอยของพ่อค้าแม่ค้าขาจรที่นำของป่าหรือของจากต่างเมืองที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจเข้ามาขาย ด้านถนนทางเข้าเมืองก็คลาคล่ำไปด้วยรถสินค้าที่ต่อแถวรอให้เหล่าอัศวินและเจ้าหน้าที่ตรวจตราเอกสารและรายการสินค้าที่นำเข้ามา

ที่สมาคมนักผจญภัยก็ยังคึกคักเช่นเคย มีนักผจญภัยมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนกันเข้ามารับงานที่แปะประกาศเอาไว้ที่กระดานในโถงของสมาคม ที่ห้องเลานจ์ของสมาคม นักผจญภัยสี่คนที่ได้รับการคัดเลือกมาเพื่อสืบหาเบาะแสรถสินค้าที่ถูกปล้นไปของโรงเรียนเล่นแร่แปรธาตุอราบัสได้มารวมตัวกันเพื่อรอฟังรายละเอียดงานเพิ่มเติมจากผู้ว่าจ้าง โดยพวกเขามีชื่อเสียงเรียงนามดังนี้


Pyra: นักเล่นแร่แปรธาตุผู้ถือครองวิชั่นไฟ


เมื่อมองจากภายนอก Pyra เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆธรรมดาผู้มีเส้นผมสีม่วงที่มักหอบข้าวของพะรุงะรังติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ แต่ที่จริงแล้วเธอนั้นเป็นคนดังของเมือง Travian เลยทีเดียว โดยทุกคนมักเรียกเธอว่า "แม่หนูนักระเบิดแล็บ" จากการที่เธอมักทำการทดลองทางการเล่นแร่แปรธาตุจนทำให้ห้องแล็บระเบิดอยู่บ่อยครั้ง (ซึ่งสุดท้ายแล้วทุกคนก็ไม่แน่ใจนักว่าการระเบิดนั้นเป็นอุบัติเหตุหรือว่าเป็นกิจกรรมยามว่างของเธอกันแน่) แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของชาวเมือง Travian เพราะความเป็นมิตรและความไร้เดียงสาของเธอ


ชินโนะสุเกะ: นินจาผู้ออกผจญภัยเพื่อสร้างชื่อเสียงและถือครองวิชั่นสายฟ้า

ชินโนะสุเกะเป็นนินจาผู้เดินทางมาจากอินาซึม่า ดินแดนแห่งความเป็นนิรันดร์ที่ถูกตัดขาดจากทวีปอื่นด้วยพายุสายฟ้าอันรุนแรง แต่ถึงแม้ว่าเขาจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาและผจญภัยในดินแดนอื่นนานสักแค่ไหน ความจงรักและภักดี (และบางที่ก็คลั่งรัก) ของเขาที่มีต่อไรเดนโชกุนก็ไม่เคยเปลี่ยนไป แม้ลักษณะภายนอกของเขาจะดูไม่เคร่งขรึมพึ่งพาได้เหมือนกับอาชีพและวิชั่นที่ถือครอง แต่ที่จริงแล้วเขาก็เป็นคนที่พึ่งพาได้นะ!

จุดอ่อนของชินโนะสุเกะคงมีเพียงอย่างเดียวคือเซนส์เรื่องทิศทางที่แย่จนทำให้เขาต้องพบเจอกับปัญหาที่ไม่จำเป็นอยู่บ่อยๆ


Cracker: กะลาสีผู้ออกเดินทางท่องโลกพร้อมวิชั่นน้ำ

Cracker เป็นกะลาสีเรือผู้ที่ได้ชื่อว่าขับเรือที่หวาดเสียวที่สุดในทะเลฝั่งตะวันออก ชีวิตของเขาคลุกคลีและสนิทชิดเชื้อกับน้ำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวิชั่นน้ำ, น้ำทะเล และที่สำคัญคือน้ำเมา ซึ่งอย่างหลังสุดนั้นสนิทกันจนแทบขาดกันไม่ได้ ซึ่งบางทีก็ทำให้เขาชวดงานต่างๆเพราะดันเผลอหลับในเวลางาน

อาวุธของเขาคือหอก อาวุธระยะประชิดที่ว่องไวและเปี่ยมด้วยพลังทำลาย


เซียวเถา: เด็กกำพร้าผู้ออกเดินทางเพื่อพิสูจน์ตนเอง



เซียวเถาเป็นเด็กกำพร้าสู้ชีวิต จอมโจรผู้ขโมยทรัพย์สินจากคนรวยมาเพื่อช่วยคนจนจากเมืองหลีเยว่ เขาถือครองวิชั่นดินอันเป็นวิชั่นของเทพแห่งพันธสัญญาซึ่งดูขัดแย้งกันกับวิถีการดำเนินชีวิตของเขาเป็นอย่างยิ่ง บางทีวิชั่นดินที่เซียวเถาถือครองอาจเป็นสิ่งแสดงถึงบางสิ่งในตัวของเขาที่ไม่เคยเปิดเผยต่อผู้ใดมาก่อน

แต่อย่างไรก็ดี เพื่อนๆในกลุ่มไม่ค่อยมีใครเรียกชื่อจริงของเขาสักเท่าไรนัก โดยมากมักเรียกเขาติดปากด้วยคำว่า "Urchin" (ที่แปลว่าเด็กเหลือขอ) หรือไม่ก็ "นายหอยเม่น" (ที่เรียกว่า Urchin เหมือนกัน)


2: The Briefing

ภาพของ "จอย" ผู้ดูแลสมาคมนักผจญภัยแห่งเมือง Travian (ในรูปคือน้อง Orn BNK48)

นักผจญภัยทั้งสี่ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกันและกันเสียทีเดียว พวกเขาต่างเคยเห็นหน้าค่าตากันบ้างเวลามาหางานหรือรับค่าตอบแทนที่สมาคมนักผจญภัยแห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาไม่นานในการทำความรู้จักกัน 

"อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน" พวกเขาก็ได้ยินเสียงใสๆทักทายพวกเขา เมื่อทุกคนหันไปก็ได้พบกับ "จอย" ผู้ดูแลสมาคมนักผจญภัยแห่งนี้ เธอเดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสที่เพียงเห็นก็รู้สึกเหมือนฤดูใบไม้ผลิมาเยือน เธอเข้ามาถามไถ่ว่าเหล่านักผจญภัยจะรับเครื่องดื่มหรือขนมทานเล่นอะไรหรือไม่ในระหว่างที่รอผู้ว่าจ้าง Pyra (ที่ดูออกจะตื่นเต้นออกนอกหน้าไปหน่อย) ขอคุกกี้, ชินโนะสุเกะขอชาแบบอินาซึม่า, Cracker ขอเหล้าแต่หัววัน ส่วนเซียวเถาเหมือนไม่รู้ว่าจะรับอะไรดีเลยได้แต่นั่งเงียบและซ่อนใบหน้าส่วนหนึ่งไว้ใต้ผ้าพันคอ

ไม่นานนักจอยก็กลับมาพร้อมเครื่องดื่มตามที่เหล่านักผจญภัยได้ขอไว้ โดยเธอได้นำนมมินท์สูตรพิเศษของสมาคมนักผจญภัยมาเสิร์ฟให้เซียวเถา หรือ "พ่อหนุ่มนักผจญภัยจากหลีเยว่" ตามที่เธอชอบเรียก

และไม่นานหลังจากที่จอยนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ อาจารย์อัลเบิร์ตจากโรงเรียนสอนเล่นแร่แปรธาตุก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เขาเป็นชายวัยกลางคนดูภูมิฐานและคงแก่เรียน เขาสวมแว่นประหลาดที่เลนส์ทั้งสองเป็นสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำและมีประกายวิบวับส่องแสงออกมาจากภายใน ดูไปคล้ายท้องฟ้ายามราตรีที่มีดวงดาวพร่างพราวเต็มผืน

เขาทักทายเหล่านักผจญภัย ทุกครั้งที่เขาทักทายใครเขาก็จะขยับแว่นพลางเพ่งมองไปที่นักผจญภัยคนนั้นและบ่นพึมพำกับตัวเอง แต่คนอื่นก็พอจะได้ยินและจับใจความได้บ้าง "คนนี้วิชั่นธาตุไฟสินะ ส่วนคนนี้ธาตุน้ำ โอ้! มีวิชั่นธาตุสายฟ้าด้วยสินะ ส่วนพ่อหนุ่มคนนี้เป็นธาตุดิน" ดูเหมือนว่าอาจารย์อัลเบิร์ตสามารถมองเห็นได้ว่าผู้คนมีวิชั่นธาตุอะไร

หลังจากทักทายกันเรียบร้อย อาจารย์อัลเบิร์ตก็เริ่มเล่าเรื่องโดยละเอียด เขาเล่าว่ารถสินค้านั้นถูกคุมมาโดยคนจากสำนักคุ้มภัยสองคนและคนดูแลรถ ภายในรถมีวัตถุดิบสำหรับปรุงยาและผลึกสายฟ้าจำนวนหนึ่งซึ่งถูกบรรจุอยู่ในภาชนะพิเศษเพื่อป้องกันการทำปฏิกิริยาธาตุ เมื่อมาถึงชายป่าวายุกระซิบในเวลาโพล้เพล้พวกเขาก็ถูกลอบโจมตี อยู่ๆก็มีควันพวยพุ่งออกมาพร้อมกับลูกไฟจำนวนมาก ทั้งควันและฝุ่นจากการระเบิดของลูกไฟทำให้พวกเขาแทบมองไม่เห็นอะไรเลย เมื่อควันและฝุ่นจางลงรถสินค้าก็หายไปแล้ว ทิ้งไว้แต่เพียงรอยลากจากถนนเข้าไปยังป่าเท่านั้น

นักผจญภัยพยายามถามข้อมูลจากอาจารย์อัลเบิร์ตเพิ่มเติมแต่ก็ดูเหมือนว่าอาจารย์แกก็ไม่รู้ข้อมูลเท่าไหร่ เพราะฟังเขาเล่ามาอีกที ในที่สุดเมื่อใกล้เวลาสอนคาบแรกอาจารย์อัลเบิร์ตจึงขอตัว ก่อนไปได้บอกกับเหล่านักผจญภัยว่าเขาได้ฝากที่อยู่ของสำนักคุ้มภัยที่ผู้คุ้มกันรถสินค้าทั้งสองคนสังกัดอยู่ไว้ให้ที่น้องจอยแล้ว และเขายังได้จัดม้าไว้ให้ที่ประตูเมืองด้านหน้า หากพร้อมแล้วสามารถไปรับม้าได้เลย

หลังจากที่อาจารย์อัลเบิร์ตกลับไป เหล่านักผจญภัยก็ตกลงกันว่าน่าจะไปสืบหาเบาะแสที่สำนักคุ้มภัยกันก่อนจึงได้ไปบอกลาน้องจอยและรับที่อยู่ของสำนักคุ้มภัยมา นอกจากที่อยู่แล้วก็ยังมีแว่นตาข้างเดียวฝากเอาไว้ด้วย ลักษณะเลนส์เหมือนกับแว่นตาที่อาจารย์อัลเบิร์ตใส่อยู่ไม่มีผิดเพี้ยน Pyra ที่เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุหยิบมันขึ้นมาดูและรู้ได้ทันทีว่ามันคือแว่นสำหรับตรวจจับพลังงานธาตุ


3: On the way

เหล่านักผจญภัยได้มาถึงสำนักคุ้มภัยและถามหาผู้คุ้มภัยที่ทำหน้าที่ในวันนั้น ผู้จัดการที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการแจกแจงงานและออเดอร์อาหารได้แต่เพียงบุ้ยใบ้ไปทางโต๊ะตัวหนึ่งทางด้านใน เหล่านักผจญภัยจึงเดินไปตามทิศทางนั้นและพบกับผู้คุ้มกันสองคนที่กำลังนั่งจิบชายามเช้ากันอยู่ 

"ดีจ้า" Pyra เดินเข้าไปทักทายชายทั้งสองคน แต่เมื่อหันมามองทางต้นเสียงทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะงุนงงนิดหน่อยว่าเสียงมาจากไหน จน Cracker ที่ยืนดูอยู่ต้องชี้ไปที่ Pyra ผู้ที่สูงไม่พ้นขอบโต๊ะ ทั้งสองมองลงไปและทำท่าประหลาดใจเล็กน้อย

"โอ้! สวัสดีแม่หนู มีธุระอะไรกับพวกข้าอย่างนั้นรึ" ชายคนหนึ่งกล่าวพลางเขยิบที่นักผจญภัยทั้งสี่สามารถเอาเก้าอี้มานั่งร่วมโต๊ะได้ เมื่อจัดแจงที่นั่งกันดีแล้วพวกเขาจึงสอบถามเรื่องการดักปล้นรถสินค้าที่ชายป่าวายุกระซิบทันที ซึ่งจากการสอบถามนั้นพวกเขาได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าควันที่พุ่งขึ้นมาก่อนที่จะมีลูกไฟจำนวนมากพุ่งตามมานั้นมีลักษณะคล้ายกับระเบิดควันมากกว่าควันจากเวทมนตร์หรือพลังธาตุ แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมไปกว่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าควรรีบไปสำรวจที่เกิดเหตุจะดีกว่า

ระหว่างเดินทางไปขึ้นมาที่หน้าประตูเมือง Pyra (อีกแล้ว) ก็ดันเหลือบไปเห็นประกาศของทางการเกี่ยวกับโจรปล้นสุสานที่ออกอาละวาดในช่วงนี้ ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับระเบิดควันที่ได้มาจากสำนักคุ้มภัยทำให้พวกเขาสงสัยว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวกับพวกโจรปล้นสุสานก็เป็นได้ ดังนั้น Pyra จึงใช้ประโยชน์จากการเป็นคนมีชื่อเสียงของเธอในการเดินเข้าไปหาข้อมูลกับทหารยามที่เดินลาดตระเวนอยู่

"อ้าว ว่าไงแม่หนูระเบิดแล็บ" คำทักทายแรกของทหารยามบ่งบอกถือชื่อเสียงของ Pyra ได้เป็นอย่างดี

ทหารยามสรุปให้ฟังว่าปกติพวกโจรปล้นสุสานมักเข้าไปขโมยของตามโบราณสถานต่างๆหรือพวกซากปรักหักพัง แต่ในช่วงหลังๆมานี้เหมือนพวกมันเริ่มมีการขโมยและดักปล้นผู้คนทั่วไปมากขึ้น ทางการกำลังหาทางปราบพวกนี้อยู่ เลยติดประกาศให้ชาวเมืองระวังกันไว้ก่อน

เมื่อสอบถามเรียบร้อยเหล่านักผจญภัยก็ได้เดินทางไปยังประตูเมืองเพื่อขึ้นม้า


3: ป่าวายุกระซิบ

การต่อสู้กับ Hilichurl ในป่าวายุกระซิบ

ในที่สุดเหล่านักผจญภัยก็เดินทางมาถึงชายป่าวายุกระซิบซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ พวกเขาลงมาและเริ่มลงมือตรวจสอบ ในเบื้องต้นพวกเขาพบพื้นถนนที่เป็นหลุมบ่อจากการระเบิดของลูกไฟและรอยลากรถสินค้าเข้าไปในป่า เมื่อลองตรวจสอบหลุมบ่อพวกนั้นพวกเขาก็พบว่ามันมีเศษแก้วและเศษสไลม์ไฟตกอยู่

พวกเขาตัดสินใจเดินตามรอยเข้าไปในป่าวายุกระซิบอย่างเงียบเชียบจนถึงชะง่อนผาแห่งหนึ่ง พวกเขาพบกับพวก Hilichurl กำลังพักผ่อนกันอยู่ใต้ชะง่อนผา เลยไปนิดหน่อยพวกเขาเห็นรถสินค้าคันหนึ่งจอดอยู่ มี Hilichurl สองตัวกำลังค้นสินค้าในรถอยู่ ชินโนะสุเกะกับเซียวเถาจึงอาสาไปสอดแนมบริเวณรถสินค้าโดยย่องไปตามเงาไม้

แต่ระหว่างการย่องไปนั้นชินโนะสุเกะที่เดินตามหลังเซียวเถาดันเหยียบถูกกิ่งไม้แห้งบนพื้น เสียงไม้ลั่นดึงความสนใจของพวก Hilichurl ที่พักผ่อนอยู่ แต่ด้วยประสบการณ์ในวิชาชีพนินจาทำให้เขาสามารถพรางตัวเข้าไปในเงาไม้ได้ทันก่อนที่พวก Hilichurl จะสังเกตเห็น

เมื่อเข้าไปใกล้พอ ทั้งสองได้ทำการซ่อนตัวและสอดแนมรถสินค้าจากระยะไกล พวกเขาเห็นว่ารถสินค้านั้นถูกเปิดและภาชนะพิเศษที่บรรจุผลึกสายฟ้าก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนพวก Hilichurl ที่กำลังค้นๆอยู่ก็ดูจะสับสนว่าของในรถนั้นคืออะไร ดูๆไปไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

หลังจากเก็บข้อมูลเรียบร้อยทั้งสองคนจึงย่องกลับทางเดิม ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งชินโนะสุเกะผู้หลงทิศนั้นเลี้ยวผิดในตอนสุดท้าย! แทนที่เขาจะกลับไปยังบริเวณที่เพื่อนๆรออยู่เขากลับไปโผล่กลางดง Hilichurl แทน และการปรากฏตัวแบบกะทันหันนี้เองก็ได้ทำให้พวก Hilichurl คิดว่าพวกเขาจะมาบุกพื้นที่ของพวกมันและหยิบอาวุธเข้าโจมตีใส่ชินโนะสุเกะทันที

การต่อสู้อุบัติขึ้น  Mitachurl ที่เปรียบเสมือนหัวหน้ากลุ่มนั้นได้เข้าโจมตีชินโนะสุเกะด้วยขวานยักษ์ แต่ก็ไม่สามารถฟันถูกนินจาผู้ว่องไวได้ ส่วนพวกก Hilichurl ก็ต่างวิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อโจมตีซ้ำ Cracker ที่เห็นท่าไม่ดีจึงได้พุ่งโจมตีด้วยหอกคู่กาย ทะลวงฝ่าแนวป้องกันเข้าไปช่วยชินโนะสุเกะได้สำเร็จ ส่วน Pyra และเซียวเถาคอยสนับสนุนการโจมตีจากระยะไกล โดยเฉพาะ Pyra ที่ใช้พลังธาตุของเธออัดผ่านสื่อเวทและระเบิด Samachurl หายไปทันทีถึงสองตัว

แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ราบรื่นนักเมื่อ Mitachurl ได้บุกเข้าไปเพื่อจัดการกับ Pyra และเซียวเถา มันกระโดดฟันด้วยท่า Kaboom Axe สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งพื้นที่ ส่วนพวก Hilichurl ที่เหลือก็เริ่มโจมตีด้วยการโยนสไลม์ไฟใส่ชินโนะสุเกะและ Cracker ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้น แต่ด้วยการโจมตีประสานระหว่างหอกที่เคลือบด้วยพลังจากวิชั่นน้ำและดาวกระจายที่แฝงด้วยพลังจากวิชั่นสายฟ้า พวกเขาทั้งสองคนก็สามารถล้มพวก Hilichurl ลงได้ 

อีกด้าน Pyra เปิดการโจมตีด้วยระเบิดไฟ รุนแรงจนขาของ Mitachurl หักไปข้างหนึ่ง เซียวเถาใช้โอกาสนี้ในการกระโดดถีบซ้ำและใช้แรงกระโดดจากการถีบนั้นดีดตัวเองขึ้นไปและใช้ธนูที่ประกอบเป็นบูมเมอแรงฟันปิดฉากการต่อสู้


4: ถ้ำลับโจรปล้นสุสาน

"เสาไฟ" ของ Pyra

หลังจากที่กำจัดพวก Hilichurl เรียบร้อย เหล่านักผจญภัยก็ได้กลับมาทำการแกะรอยอีกครั้ง พวกเขาเดินไปสำรวจรถสินค้าที่ถูกทิ้งเอาไว้ เมื่อดูในรถพบว่าที่เหลือไว้มีเพียงวัตถุดิบในการทำโพชั่นเท่านั้น ส่วนพวกแร่หรือผลึกต่างๆนั้นไม่ปรากฏให้เห็น ภาชนะพิเศษสำหรับบรรจุผลึกสายฟ้าก็ไม่อยู่ในรถเช่นกัน

แต่เนื่องจากผลึกสายฟ้าเป็นแร่ที่มีพลังธาตุเข้มข้น ดังนั้นเมื่อนักผจญภัยนำแว่นตรวจจับพลังธาตุส่องดูก็พบเห็นร่องรอยของผลึกสายฟ้าได้ทันที พวกเขาเดินตามรอยพลังธาตุนั้นเข้าไปในป่าจนมาถึงปากถ้ำแห่งหนึ่งและหยุดดูลาดเลาอยู่หน้าปากถ้ำ เมื่อเห็นว่าสงบดีแล้วทั้งหมดจึงค่อยๆย่องเข้าไป

พวกเขาพบว่าภายในถ้ำนั้นไม่มีคนอยู่ เมื่อเข้ามาถึงบริเวณโถงกลางก็พบว่ามีทางแยกไปทางซ้าย, ทางขวา และตรงไป พวกเขาตัดสินใจตามรอยธาตุสายฟ้าไปทางขวาก่อน ก่อนเข้าไป Pyra ก็ได้ใช้วิชั่นของเธอผสานกับทักษะการประดิษฐ์ตั้ง "เสาไฟ" ไว้คอยระวังภัย หากมีศัตรูเข้ามาในอาณาเขตมันจะยิงไฟใส่ทันที

ภายในห้องทางขวานั้นมีลักษณะเป็นห้องทดลองการเล่นแร่แปรธาตุ พวกเขาพบภาชนะพิเศษสำหรับบรรจุผลึกสายฟ้าอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง เมื่อลองเอาแว่นตรวจจับพลังธาตุส่องดูก็พบร่องรอยของผลึกสายฟ้ากระจายอยู่ทั่วห้อง ดูจากอุปกรณ์ในห้องประกอบคาดว่าพวกโจรปล้นสุสานน่าจะนำผลึกสายฟ้าไปใช้งานจนหมดแล้ว

เมื่อไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม นักผจญภัยทั้งหมดจึงย้ายไปสำรวจห้องทางซ้ายแทน โดยห้องนี้เป็นเหมือนกับห้องประชุม มีโต๊ะตัวใหญ่และกระดานตั้งอยู่ ที่โต๊ะพวกเขาพบแผนที่เขต มีเส้นสีแดงลากจากตำแหน่งปัจจุบันไปตามแม่น้ำจนถึงเมืองทราเวียน ส่วนบนกระดานมีแผนผังอาคารอยู่ หลังจากเพ่งกันสักพักจึงได้รู้ว่ามันคือแผนผังธนาคารเมืองทราเวียนนั่นเอง เหล่านักผจญภัยจึงสรุปกันว่าพวกโจรปล้นสุสานน่าจะวางแผนใช้ผลึกสายฟ้าที่พวกมันขโมยมาในการบุกปล้นธนาคาร

พวกเขาใช้แว่นตรวจจับพลังธาตุในการตามรอยพวกโจรปล้นสุสาน พบว่าร่องรอยนั้นนำไปสู่ทางออกอีกทางซึ่งเป็นท่าเรือขนาดเล็ก ที่ท่ามีเรือเล็กจอดอยู่ ดูจากแผนที่ในห้องและร่องรอยที่ท่าเรือ พวกมันน่าจะเดินทางไปเมืองทราเวียนผ่านทางแม่น้ำเป็นแน่

Craker กะลาสีผู้ขับเรือได้หวาดเสียวที่สุดในทะเลฝั่งตะวันออกกระโดดลงเรือไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยนักผจญภัยคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นทะเลหรือแม่น้ำเขาก็สามารถแล่นเรือให้ไปถึงที่หมายได้โดย หวาดเสียว ปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด

ด้วยฝีมือของ Cracker พวกเขาก็มาถึงเมืองทราเวียนได้โดยปลอดภัย


5: ธนาคารเมืองทราเวียน

การต่อสู้กับโจรปล้นสุสานในธนาคารเมืองทราเวียน

นักผจญภัยทั้งสี่ล่องเรือมาจนถึงคูน้ำเมืองทราเวียน (แม้จะกำลังเวียนหัวจากฝีมือล่องเรือของ Cracker แต่แลกกับการมาถึงเมืองทราเวียนเร็วขึ้นก็ถือว่าไม่แย่นัก) พวกเขารีบผูกเรือแล้วไปที่ประตูเมือง ยังไม่ทันถึงประตูเมืองพวกเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดและควันลอยออกมาจากในเมือง ดูเหมือนพวกเขาจะมาถึงช้าเกินไป

"อ้าว นักผจญภัย มาทำอะไรกันตรงนี้ล่ะ" ทหารยามคนหนึ่งที่ผ่านมาทักทายเหล่านักผจญภัย ท่าทางของเขารีบร้อนและน้ำเสียงดูเป็นกังวล เหล่านักผจญภัยจึงเล่าให้ฟังเรื่องที่ไปค้นพบแผนปล้นธนาคารเมืองทราเวียนในถ้ำลับของโจรปล้นสุสาน

"เป็นอย่างนี้นี่เอง แย่จริงๆ พวกมันเข้ามาตอนไหนทำไมเราไม่รู้ตัวเลย บัดซบจริงๆ ตอนนี้พวกมันจับน้องจอยเป็นตัวประกันแล้วด้วย!" ทหารยามสบถออกมาอย่างหัวเสีย ซึ่งทำให้เหล่านักผจญภัยอยู่ไม่สุขเช่นกัน แน่นอนว่าเมืองกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าคือน้องจอยกำลังตกอยู่ในอันตราย!

แต่ถึงจะเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องน้องจอยอย่างไรพวกเขาก็ยังมีสติพอที่จะนึกถึงแผนที่และแผนผังที่พวกเขาเจอในถ้ำ เมื่อหยิบขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้งก็พบว่าพวกมันน่าจะใช้เส้นทางผ่านท่อระบายน้ำแล้วใช้ระเบิดสร้างทางเข้า และเมื่อไปตรวจสอบบริเวณคูเมืองที่เชื่อมกับท่อระบายน้ำดูพวกเขาก็พบว่ามันมีเรือจำนวนหนึ่งจอดทิ้งไว้

ไม่รอช้า ทั้งสี่รีบตามลงไปด้านล่าง ก่อนตามรอยพวกโจรปล้นสุสานเข้าไปในท่อพวกเขาได้เผาเรือของพวกมันทิ้งก่อนเพื่อตัดทางหนี หลังจากนั้นจึงตามรอยจากพลังธาตุไปจนมาถึงบริเวณหนึ่งซึ่งเพดานถูกระเบิดเป็นรู พวกเขาค่อยๆปีนขึ้นไปและพบว่าพวกเขามาโผล่ที่ห้องซ่อมบำรุงในธนาคารเมืองทราเวียน

ชินโนะสุเกะยื่นหน้าออกไปสอดแนมภายนอกและพบว่าที่บริเวณหลังเคาท์เตอร์ (ที่ติดกับห้องซ่อมบำรุง) มีโจรปล้นสุสานสองคนเฝ้าอยู่ หนึ่งในนั้นล็อคคอน้องจอยเอาไว้ ซึ่งน้องจอยมีท่าทีตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด ชินโนะสุเกะจึงกลับเข้าห้องมาเพื่อหารือกับเพื่อนๆอีกสามคน

พวกเขาตกลงกันว่าน่าจะต้องหลอกล่อพวกมันให้เข้ามาทีละคน เพราะถ้าบุกเข้าไปทั้งๆที่น้องจอยถูกจับเป็นตัวประกันอยู่อาจเกิดอันตรายกับน้องจอยได้ เมื่อตกลงกันแล้ว Pyra จึงได้ประดิษฐ์ "น้องกบ" ที่จะสร้างเสียงเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อบีบขึ้นมา และก่อนที่จะบีบเธอก็ได้สร้างเสาไฟกินรีไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด

"อ๊บบบบบ" น้องกบส่งเสียงร้องออกมา โจรปล้นสุสานคนที่ไม่ได้ล็อคคอน้องจอยอยู่เดินเข้ามาและถูกเหล่านักผจญภัยลากไปมัดกับเสาไฟแทบจะในทันทีที่โผล่หน้าเข้ามา และไม่รอช้าบีบน้องกบอีกรอบเพื่อเรียกอีกคนเข้ามา แต่เนื่องจากอีกคนกำลังล็อคคอน้องจอยอยู่ มันเลยจำเป็นต้องมัดน้องจอยเอาไว้กับเคาท์เตอร์ธนาคารก่อนที่จะเดินไปดู ก่อนไปมันได้ตะโกนบอกโจรคนอื่นในห้องนิรภัยที่อยู่ติดกันว่า

"หัวหน้าช่วยเร่งมือหน่อย ข้าว่ามันมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น ไอ้หัวแดงมันหายไปสักพักแล้ว" พูดจบก็เดินไปดู ในมือเตรียมระเบิดขวดไว้พร้อม

ทันทีที่มันโผล่หน้ามาที่ประตู ยังไม่ทันที่นักผจญภัยทั้งสี่จะได้พุ่งเข้าไปรวบตัว โจรปล้นสุสานคนนั้นก็เขวี้ยงระเบิดขวดเข้ามาก่อน ด้วยระยะและพื้นที่อันน้อยนิดของห้องซ่อมบำรุงนี้คงยากที่จะหลบ

หลบไม่ได้ก็ไม่ต้องหลบ! สิ่งที่ Pyra ทำคือการโยนระเบิดสวนไปอีกลูก! ระเบิดปะทะกันกลางอากาศและระเบิดออก ปลดปล่อยแรงอัดกระแทกส่งโจรปล้นสุสานที่อยู่ตรงหน้าประตูกระเด็นไปติดเคาท์เตอร์ด้านนอก ส่วนเหล่านักผจญภัยหาที่กำบังได้ทัน และไม่รอให้ความวุ่นวายสงบ ชินโนะสุเกะที่ไหวตัวก่อนกระโดดออกจากห้องตามไปรวบตัวโจรปล้นสุสานที่กระเด็นออกไป

แรงระเบิดส่งผลให้โจรปล้นสุสานในอีกห้องรู้ตัว พวกมันวางทรัพย์สินที่กำลังกวาดลงถุงไว้แล้วเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร Pyra ที่กระโดดตามชินโนะสุเกะออกมาก็รวบรวมพลังไว้ที่สื่อเวทของเธอและปลดปล่อยระเบิดไฟอัดเข้าไปในห้องนิรภัยหมายจะระเบิดกองโจรทิ้งด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ทุกอย่างดูสงบ แต่อยู่ๆก็มีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากม่านควัน หมัดขวาของมันชกใส่ Pyra ด้วยความรวดเร็วและรุนแรงจนได้ยินเสียงเสียดสีกับอากาศ เคราะห์ดีที่ Pyra ใช้อุปกรณ์ที่เธอแบกมาสร้างเกราะแบบหยาบๆป้องกันไว้ได้

ไม่นานควันก็จางไป เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ของหัวหน้าโจรปล้นสุสาน ที่มือของมันทั้งสองข้างมีปลอกแขนและสนับมือรูปร่างประหลาดอยู่ เมื่อมันสะบัดมือก็มีผลึกสายฟ้าปรากฏขึ้นที่สนับมือ ที่แท้ผลึกสายฟ้าที่ถูกขโมยไปก็ถูกนำมาสร้างอาวุธนี่เอง

เมื่อหัวหน้าของพวกมันปรากฏตัว Cracker กับเซียวเถาก็ไม่รอช้า รีบบุกโจมตีทันที แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะประเมินพลังของโจรปล้นสุสานผู้นี้ต่ำเกินไป การโจมตีด้วยธนูถูกสกัดไว้ได้ด้วยการเบี่ยงตัวและคว้าลูกธนูเอาไว้ด้วยมือเปล่า! ส่วนกระบวนท่าหอกของ Cracker ก็ถูกหลบได้ด้วยการเบี่ยงตัวแบบเดมป์ซีย์โรลล์ และในจังหวะที่ทุกคนกำลังอึ้งกับทักษะอันเป็นเลิศของหัวหน้าโจรปล้นสุสานอยู่นั้น ระเบิดเพลิงลูกหนึ่งก็ลอยเข้ามากลางวงต่อสู้

โจรปล้นสุสานคนแรกที่ถูกเหล่านักผจญภัยล่อลวงเข้าไปในห้องซ่อมบำรุงหลุดออกมาได้แล้ว! ระเบิดเพลิงกระทบพื้นเกิดเป็นแอ่งไฟขนาดย่อมสร้างความปั่นป่วน และในจังหวะที่ปั่นป่วนนั้นหัวหน้าโจรปล้นสุสานได้ตั้งการ์ดและมุดเข้ามาถึงตัว Cracker สาวหมัดที่มีผลึกสายฟ้าติดอยู่ใส่กะลาสีผู้ไม่ทันได้ระวังตัว และทันทีที่หมัดถูกปล่อยออกไป ผลึกสายฟ้าที่สันหมัดก็ทำปฏิกิริยาโอเวอร์โหลดกับไฟจากระเบิดขวด กลายเป็นระเบิดปฏิกิริยาธาตุที่ระเบิดทุกคนในวงต่อสู้! เป็นการปล่อยหมัดเดียวแต่ได้รับบาดเจ็บกันทุกคน

แต่โอเวอร์โหลดก็ไม่ใช่สิ่งที่โจรใช้ได้แค่เพียงฝ่ายเดียว ท่ามกลางความวุ่นวายนั้นชินโนะสุเกะอัดพลังสายฟ้าของตัวเองใส่ดาวกระจายและซัดใส่หัวหน้ากองโจรที่กำลังตั้งหลักหลังการปล่อยหมัดอันรุนแรง กระแสไฟฟ้าทำให้ร่างมันกระตุกไปเล็กน้อย ยังเห็นประกายสายฟ้าสีม่วงแล่นไปทั่วร่าง และในจังหวะนั้นที่ Pyra ก็ชาร์จสื่อเวทด้วยพลังที่เหลืออยู่ของเธอ...

และแล้วทุกคนก็ได้รับรู้กันในวันนั้นว่าฉายา "แม่หนูระเบิดแล็บ" ที่ใครๆต่างเรียกเธอนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ...


6: อีกวันที่ น้องจอย เมืองปลอดภัย


สมาคมนักผจญภัย ภาพจาก Art station

นักผจญภัยทั้งสี่นั่งรออยู่ที่โต๊ะตัวเดิมกับวันที่มารับงาน ทุกคนฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้วแต่ก็ยังมีพวกแผลถลอกและแผลไฟไหม้เล็กๆน้อยๆที่ต้องรักษาต่ออีกหน่อย มีเพียง Pyra ที่ไร้รอยขีดข่วน (เพราะเป็นคนสร้างรอยขีดข่วนให้กับคนอื่นนั่นเอง)

เหตุการณ์ในตอนนั้นหลังจากที่ Pyra ชาร์จพลังใส่สื่อเวทและเรียกเสาไฟกินรีขนาดใหญ่ขึ้นมา ที่ปากของกินรีนั้นพ่นไฟออกมาและทำปฏิกิริยาโอเวอร์โหลดกับพลังสายฟ้าของชินโนะสุเกะ เกิดแรงระเบิดที่กวาดล้างโจรปล้นสุสานเกลี้ยงภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ดีที่ใครสักคนในที่นั้นเอาตัวเข้าปกป้องน้องจอยจากแรงระเบิดเอาไว้ได้ น้องจอยผู้เป็นฤดูใบไม้ผลิของทุกคนจึงไร้รอยขีดข่วน

แม้หัวหน้าโจรปล้นสุสานจะสามารถเอาตัดรอดจากแรงระเบิดมาได้ แต่มันก็บาดเจ็บเกินกว่าจะทำอะไรต่อ สุดท้ายมันจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวกับทหารยาม เหตุการณ์ในวันนั้นจึงคลี่คลายลงไป

ส่วนในวันนี้นั้นพวกเขามารับค่าตอบแทนจากงาน ซึ่งหลังจากนั่งรอกันสักพักน้องจอยก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถาดใส่อาหารและเครื่องดื่มใบใหญ่

"สวัสดีค่าา" เทอทักทายพลางเสิร์ฟของว่างให้แต่ละคน คุกกี้สำหรับ Pyra, ไวน์จากเมือง Mondstadt สำหรับ Cracker, ชาแบบอินาซึม่าสำหรับชินโนะสุเกะ และนมมินต์สูตรพิเศษของสมาคมนักผจญภัยสำหรับเซียวเถา "จอยต้องขอบคุณทุกคนด้วยนะคะที่ช่วยจอยเอาไว้ ถ้าไม่ได้ทุกคนช่วยไว้จอยต้องแย่แน่ๆเลยค่ะ" น้องจอยกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงสดใสและสีหน้าออดอ้อน เพียงแค่เธอยิ้มก็ดูเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิได้มาเยือน

นักผจญภัยต่างลืมอาการบาดเจ็บของตัวเองไปกับฤดูใบไม้ผลิ ต่างคนต่างหยิบของว่างตรงหน้าขึ้นมาลิ้มรส ในระหว่างที่น้องจอยวางซองสีน้ำตาลลงตรงหน้าของแต่ละคน

"อาจารย์อัลเบิร์ตไม่ว่างมาพบทุกคนด้วยตัวเอง แต่ก็ได้ฝากตั๋วแลกเงินมาให้แล้วนะคะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สินค้าคืนแต่อาจารย์ก็ไม่ได้หักเงินค่าจ้างแต่อย่างใด ทุกคนยังได้เงินเต็มจำนวนเหมือนเดิมนะคะ ส่วนแว่นตรวจจับพลังธาตุก็สามารถเก็บไว้ได้เลย ถือเป็นค่าตอบแทนเพิ่มเติมสำหรับการช่วยเมืองนี้ไว้"

เมื่อน้องจอยอธิบายจบก็ขอตัวไปจัดการงานเอกสารต่อ ปล่อยให้เหล่านักผจญภัยนั่งพักผ่อนและอิ่มเอมกับของว่างในวันอันแสนสงบสุข

วันนี้เป็นอีกวันที่ น้องจอย เมืองปลอดภัย



ภาคผนวก: รายละเอียดการ Set up

ในส่วนนี้คือแนวทางการสร้างเกมในธีม Genshin Impact จากกฏพื้นฐานของ FATE ซึ่งส่วนมากเป็นการกำหนดแนวทางในการเขียนคุณสมบัติ (Aspect) และความสามารถพิเศษ (Stunt) รวมทั้งกฏเพิ่มเติมเกี่ยวกับปฏิกิริยาธาตุและการติดคุณสมบัติธาตุให้แก่ศัตรู

อย่างไรก็ดี เวอร์ชันที่นำมาเล่นนี้เป็นเวอร์ชันแรกที่ยังไม่ได้ทำการปรับสมดุลต่างๆ ซึ่งหลังจากได้ลองเล่นจริงแล้วก็พบว่าต้องปรับใหม่หลายอย่างอยู่เหมือนกัน

1. คุณสมบัติ

แนวคิดตั้งตั้น

แนวคิดตั้งต้นประกอบด้วย 2 ส่วนคือ อาชีพและวิชั่นที่ถือครอง เช่น นักเล่นแร่แปรธาตุผู้ถือครองวิชั่นดิน, นักล่าปีศาจที่ถือครองวิชั่นน้ำแข็ง เป็นต้น เป็นการกำหนดคร่าวๆว่าตัวละครสามารถทำอะไรได้บ้าง

คุณสมบัติอาวุธ

บอกว่าตัวละครนั้นใช้อาวุธชนิดไหน อาจระบุเป็นชื่ออาวุธหากเป็นอาวุธที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งอาวุธมีทั้งหมด 5 ประเภทได้แก่ ดาบ, ดาบใหญ่, หอก, ธนู และ สื่อเวท โดยอาวุธแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป

  • ดาบ เป็นอาวุธที่มีความคล่องตัวสูง ใช้โจมตีหลายเป้าหมายหรือว่าสามารถฝังพลังธาตุเข้าไปได้ง่ายด้วยขนาดที่เล็กของมัน ชาร์จโจมตีด้วยการจ่ายความกดดันทางกายภาพ เมื่อชาร์จโจมตีจะได้รับโบนัส +2 และโจมตีต่อได้ 1 ครั้ง การโจมตีทั้งสองครั้งสามารถเลือกเป้าหมายที่ต่างกันได้
  • ดาบใหญ่ เป็นอาวุธที่เชื่องช้า แต่โจมตีรุนแรง หากเจอกับศัตรูที่มีโล่หรือพลังป้องกันสูง ดาบใหญ่คือสิ่งที่คุณจะนึกถึง แต่มันก็อาจเสียเปรียบเมื่อต้องสู้กับศัตรูที่มีความรวดเร็วเช่นกัน สามารถชาร์จผ่านการใช้การป้องกันเต็มระดับเท่านั้น เมื่อชาร์จโจมตีจะได้รับโบนัส +2 เพิ่มเติมจากบูสต์ (ถ้าเรียกใช้บูสต์ด้วยเป็น +4) และเพิ่มระดับอาวุธ 1 (เพิ่มความเสียหาย 1 แต้มเมื่อโจมตีสำเร็จ) สามารถแบ่งโจมตีได้หลายเป้าหมาย
  • หอก เป็นอาวุธที่เร็วและคล่องตัว ชาร์จด้วยการจ่ายควากดดันทางกายภาพเมื่อชาร์จสามารถพุ่งโจมตีศัตรูที่อยู่ในโซนอื่นที่อยู่ติดกันได้และได้รับบูสต์เมื่อผลทอยออกมาเสมอเป็นอย่างน้อย หากสำเร็จอย่างมีสไตล์จะได้ 2 บูสต์
  • ธนู เป็นอาวุธระยะไกล สามารถโจมตีศัตรูในโซนเดียวกันและโซนติดกันได้ ชาร์จด้วยช่องความกดดันทางจิตใจ หากชาร์จโจมตีจะเพิ่มระยะโจมตีเป็นสองโซนและการโจมตีจะมีพลังธาตุแฝง พร้อมได้รับโบนัส +2
  • สื่อเวท เป็นอาวุธที่ทุกการโจมตีเป็นพลังธาตุ ระยะโจมตีภายในโซนและโซนติดกัน เมื่อชาร์จจะเป็นการโจมตีคลุมทั้งโซน โดยศัตรูแต่ละตัวจะทอยป้องกันแยกกัน โดยจะได้รับโบนัสเท่ากับปริมาณความกดดันทางจิตใจที่จ่าย เช่นใช้ 3 แต้มก็จะได้โบนัส +3

คุณสมบัติอิสระ

ผู้เล่นสามารถเลือกคุณสมบัติอิสระได้สองอย่าง ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งสังกัดของตัวละครหรืออาร์ติแฟคท์ (ในเบื้องต้นอาร์ติแฟคท์จะยังไม่มีให้ใช้ ตกลงกันอีกทีก่อนเล่น) หรืออาจเลือกเป็นภูมิหลังบางอย่างของตัวละครหรือว่าความชำนาญในด้านต่างๆเช่นอดีตนายพราน, พ่อค้าเร่, นักโบราณคดี เป็นต้น


2. ความสามารถพิเศษ

เนื่องจากต้องเล่นกับพลังธาตุเป็นหลัก ดังนั้นความสามารถพิเศษเริ่มเกมสามอย่างจะบังคับเป็นพลังธาตุ 1 อย่าง อีกสองอย่างสามารถเลือกได้อย่างอิสระ ซึ่งควรเป็นความสามารถพิเศษที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของตัวละคร

โดยความสามารถพิเศษประเภทพลังธาตุนั้นจะเป็นตัวกำหนดว่าตัวละครจะใช้การกระทำประเภทไหนในการติดคุณสมบัติธาตุให้แก่ศัตรู เว้นแต่เพียงตัวละครที่ใช้อาวุธประเภทสื่อเวทและธนูที่สามารถติดคุณสมบัติธาตุให้แก่ศัตรูได้แม้ไม่มีความสามารถพิเศษประเภทพลังธาตุ

 
3. คุณสมบัติธาตุ

คุณสมบัติธาตุจะติดตัวศัตรูทันทีเมื่อการกระทำที่มีพลังธาตุแฝงอยู่ให้ผลเสมอหรือว่าสำเร็จ เป็นคุณสมบัติที่สามารถเรียกใช้ฟรีโดยใช้การกระทำที่มีพลังธาตุแฝงเท่านั้น โดยการเรียกใช้จะได้รับโบนัสที่ต่างกันออกไปตามแต่ปฏิกิริยาของธาตุตามที่ระบุดังต่อไปนี้

  • ละลาย: เมื่อใช้การกระทำธาตุไฟใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำแข็ง หรือใช้การกระทำธาตุน้ำแข็งใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุไฟ สามารถเรียกใช้คุณสมบัตินั้นได้ฟรีและรับโบนัส +2
  • ระเหย: เมื่อใช้การกระทำธาตุไฟใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำ หรือใช้การกระทำธาตุน้ำใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุไฟ สามารถเรียกใช้คุณสมบัตินั้นได้ฟรีและได้รับโบนัส +2
  • เยือกแข็ง: เมื่อใช้การกระทำธาตุน้ำแข็งใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำ หรือใช้การกระทำธาตุน้ำใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำแข็ง หากสำเร็จศัตรูจะติดคุณสมบัติเยือกแข็ง ซึ่งจะไม่สามารถกระทำการใดๆได้ตลอดการประมือและถือว่ายังมีคุณสมบัติธาตุน้ำแข็งติดอยู่ สามารถถูกเรียกใช้ฟรีเมื่อโจมตีด้วยดาบใหญ่หรือการกระทำธาตุดิน โดยจะได้รับโบนัส +2 แต่คุณสมบัติเยือกแข็งจะหายไปหลังจากการเรียกใช้นี้
  • นำไฟฟ้า: เมื่อใช้เมื่อใช้การกระทำธาตุสายฟ้าใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำแข็ง หรือใช้การกระทำธาตุน้ำแข็งใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุสายฟ้า หากสำเร็จศัตรูจะติดคุณสมบัตินำไฟฟ้า ซึ่งสามารถเรียกใช้ได้ฟรีหนึ่งครั้ง ได้รับโบนัส +2 เมื่อทำการโจมตีที่ไม่มีธาตุ
  • ชาร์จไฟฟ้า: เมื่อใช้เมื่อใช้การกระทำธาตุสายฟ้าใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำ หรือใช้การกระทำธาตุน้ำใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุสายฟ้า โดยสามารถเรียกใช้คุณสมบัติธาตุฟรีและได้โบนัส +2 หากสำเร็จจะสร้างความเสียหายธาตุแก่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุ (น้ำหรือสายฟ้า) ทุกตัวในโซน 1 แต้ม
  • โอเวอร์โหลด: เมื่อใช้เมื่อใช้การกระทำธาตุสายฟ้าใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุไฟ หรือใช้การกระทำธาตุไฟใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุสายฟ้า หากการกระทำสำเร็จจะสร้างความเสียหายที่แฝงธาตุไฟให้แก่ศัตรูทุกตัวในโซน 1 แต้ม หากศัตรูมีคุณสมบัติธาตุอื่นอยู่ก่อนแล้วจะทำปฏิกิริยาทันที
  • ตกผลึก: เมื่อใช้การกระทำธาตุดินใส่คุณสมบัติธาตุใดๆก็ตามจะสร้างโล่ธาตุที่สามารถดูดซับความเสียหายได้เท่ากับความต่างของผลทอยและสามารถเรียกใช้ได้ฟรีเมื่อต้องป้องกันการโจมตีจากเดียวกับโล่
  • หมุน: เมื่อใช้การการะทำธาตุลมจะเป็นการกระจายคุณสมบัติธาตุของเป้าหมายไปให้แก่ศัตรูทุกตัวในโซนเดียวกัน หากศัตรูมีคุณสมบัติธาตุติดอยู่ก่อนแล้วก็จะเกิดปฏิกิริยาทันที


4. ชาร์จ

การชาร์จโจมตีสามารถทำได้โดยใช้ช่องความกดดัน 1 ช่อง ทางกายภาพ สำหรับอาวุธประเภทดาบ, ดาบใหญ่ และหอก ทางจิต สำหรับสื่อเวทและธนู โดยการชาร์จโจมตีจะได้คุณสมบัติแตกต่างกันไปในแต่ละอาวุธ และระหว่างการชาร์จโจมตีสามารถเรียกใช้คุณสมบัติอาวุธและบูสต์ร่วมด้วยได้ หรืออีกวิธีหนึ่งคือการใช้บูสต์ที่ได้จากการป้องกันเต็มระดับ (เฉพาะดาบใหญ่เท่านั้น)

Comments