Skip to main content

Featured

[Wrap Up + Replay] 2400 Inner System Blue : Missing Cyber Doc

หน้าปกเกม 2400 : Inner System Blues Introduction เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้วหลังจากที่เราห่างหายการรัน TRPG ไปนานราวๆ 3 เดือน เราคิดว่าจะลองรันแบบ Play by Post หรือการ TRPG ผ่านทางการพิมพ์หรือการตั้งกระทู้ดู น่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์หลังจากที่สถานการณ์โควิดดีขึ้นจนมีเวลาว่างไม่มากเท่าแต่ก่อน หลังจากทำการค้นข้อมูลสักพักจากเว็บบอร์ดต่างประเทศ รวมทั้งคลิป Youtube ที่แชร์ประสบการณ์การ Play by Post ทั้งที่ประสบความสำเร็จและที่ล้มเหลว เราก็ได้เลือกระบบเกมและร่างพล็อตของเกมขึ้นมา หลังจากนั้นจึงรับสมัครผู้เล่นใน Discord ของกลุ่ม Onion Knight Table  และเล่นกันในกลุ่ม เริ่มเล่นตั้งแต่เดือนมิถุนายน ลากยาวมาจนจบในช่วงเดือนธันวาคม รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน

[Replay] Genshin Impact: Powered by FATE

Genshin Impact Powered by FATE

0: Setting

Genshin Impact: Power by FATE เป็นโปรเจคท์ทดลองในการนำระบบและโลกของเกม Genshin Impact มาเล่นในแบบ TRPG โดยใช้ระบบ FATE Condensed เป็นแกนกลางและใส่กฏเสริมต่างๆเข้าไป (อ่านกฏฉบับแปลไทยได้ที่ https://www.fatesrdthai.com/) โดยเฉพาะเรื่องของระบบอาวุธ, พลังธาตุ และปฏิกิริยาธาตุอันเป็นเอกลักษณ์ของเกม Genshin Impact หากสนใจสามารถอ่านต่อในช่วงท้ายซึ่งจะลงรายละเอียดของระบบที่นำมาประยุกต์ใช้ แน่นอนว่ายังคงเป็นตัวทดลองที่ยังไม่ได้ทำการปรับสมดุลของอาวุธและปฏิกิริยาธาตุแต่อย่างใด

โดยเนื้อเรื่องจะดำเนินอยู่ในเมืองสมมติแห่งหนึ่งในโลก Teyvat ที่ชื่อว่า Travian ซึ่งมีสภาพสังคมและวัฒนธรรมคล้ายกับเมือง Mondstadt ในตัวเกมต้นฉบับ มีสมาคมนักผจญภัยที่คอยรับงานต่างๆจากชาวเมืองและแจกจ่ายงานนั้นให้กับเหล่านักผจญภัยในสังกัด

เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อโรงเรียนสอนเล่นแร่แปรธาตุ "อราบัส" ได้ส่งคำร้องด่วนมายังสมาคมนักผจญภัยแห่งเมือง Travian เพื่อขอให้จัดหานักผจญภัยหนึ่งทีมเพื่อออกตามสืบเรื่องรถสินค้าของโรงเรียนที่ถูกดักปล้นระหว่างทาง ซึ่งในรถนั้นมีวัตถุอันตรายอย่าง "ผลึกสายฟ้า" ที่สามารถทำปฏิกิริยากับพลังงานธาตุไฟแล้วเกิดระเบิดรุนแรงบรรทุกมาด้วย

1: The Adventurers

บรรยากาศยามเช้าของเมืองทราเวียนยังคงพลุกพล่านและเปี่ยมชีวิตชีวาเช่นเคย ที่จตุรัสใจกลางเมืองคลาคล่ำไปด้วยร้านค้าต่างๆทั้งของกินของใช้ บ้างก็มีแผงลอยของพ่อค้าแม่ค้าขาจรที่นำของป่าหรือของจากต่างเมืองที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจเข้ามาขาย ด้านถนนทางเข้าเมืองก็คลาคล่ำไปด้วยรถสินค้าที่ต่อแถวรอให้เหล่าอัศวินและเจ้าหน้าที่ตรวจตราเอกสารและรายการสินค้าที่นำเข้ามา

ที่สมาคมนักผจญภัยก็ยังคึกคักเช่นเคย มีนักผจญภัยมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนกันเข้ามารับงานที่แปะประกาศเอาไว้ที่กระดานในโถงของสมาคม ที่ห้องเลานจ์ของสมาคม นักผจญภัยสี่คนที่ได้รับการคัดเลือกมาเพื่อสืบหาเบาะแสรถสินค้าที่ถูกปล้นไปของโรงเรียนเล่นแร่แปรธาตุอราบัสได้มารวมตัวกันเพื่อรอฟังรายละเอียดงานเพิ่มเติมจากผู้ว่าจ้าง โดยพวกเขามีชื่อเสียงเรียงนามดังนี้


Pyra: นักเล่นแร่แปรธาตุผู้ถือครองวิชั่นไฟ


เมื่อมองจากภายนอก Pyra เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆธรรมดาผู้มีเส้นผมสีม่วงที่มักหอบข้าวของพะรุงะรังติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ แต่ที่จริงแล้วเธอนั้นเป็นคนดังของเมือง Travian เลยทีเดียว โดยทุกคนมักเรียกเธอว่า "แม่หนูนักระเบิดแล็บ" จากการที่เธอมักทำการทดลองทางการเล่นแร่แปรธาตุจนทำให้ห้องแล็บระเบิดอยู่บ่อยครั้ง (ซึ่งสุดท้ายแล้วทุกคนก็ไม่แน่ใจนักว่าการระเบิดนั้นเป็นอุบัติเหตุหรือว่าเป็นกิจกรรมยามว่างของเธอกันแน่) แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของชาวเมือง Travian เพราะความเป็นมิตรและความไร้เดียงสาของเธอ


ชินโนะสุเกะ: นินจาผู้ออกผจญภัยเพื่อสร้างชื่อเสียงและถือครองวิชั่นสายฟ้า

ชินโนะสุเกะเป็นนินจาผู้เดินทางมาจากอินาซึม่า ดินแดนแห่งความเป็นนิรันดร์ที่ถูกตัดขาดจากทวีปอื่นด้วยพายุสายฟ้าอันรุนแรง แต่ถึงแม้ว่าเขาจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาและผจญภัยในดินแดนอื่นนานสักแค่ไหน ความจงรักและภักดี (และบางที่ก็คลั่งรัก) ของเขาที่มีต่อไรเดนโชกุนก็ไม่เคยเปลี่ยนไป แม้ลักษณะภายนอกของเขาจะดูไม่เคร่งขรึมพึ่งพาได้เหมือนกับอาชีพและวิชั่นที่ถือครอง แต่ที่จริงแล้วเขาก็เป็นคนที่พึ่งพาได้นะ!

จุดอ่อนของชินโนะสุเกะคงมีเพียงอย่างเดียวคือเซนส์เรื่องทิศทางที่แย่จนทำให้เขาต้องพบเจอกับปัญหาที่ไม่จำเป็นอยู่บ่อยๆ


Cracker: กะลาสีผู้ออกเดินทางท่องโลกพร้อมวิชั่นน้ำ

Cracker เป็นกะลาสีเรือผู้ที่ได้ชื่อว่าขับเรือที่หวาดเสียวที่สุดในทะเลฝั่งตะวันออก ชีวิตของเขาคลุกคลีและสนิทชิดเชื้อกับน้ำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวิชั่นน้ำ, น้ำทะเล และที่สำคัญคือน้ำเมา ซึ่งอย่างหลังสุดนั้นสนิทกันจนแทบขาดกันไม่ได้ ซึ่งบางทีก็ทำให้เขาชวดงานต่างๆเพราะดันเผลอหลับในเวลางาน

อาวุธของเขาคือหอก อาวุธระยะประชิดที่ว่องไวและเปี่ยมด้วยพลังทำลาย


เซียวเถา: เด็กกำพร้าผู้ออกเดินทางเพื่อพิสูจน์ตนเอง



เซียวเถาเป็นเด็กกำพร้าสู้ชีวิต จอมโจรผู้ขโมยทรัพย์สินจากคนรวยมาเพื่อช่วยคนจนจากเมืองหลีเยว่ เขาถือครองวิชั่นดินอันเป็นวิชั่นของเทพแห่งพันธสัญญาซึ่งดูขัดแย้งกันกับวิถีการดำเนินชีวิตของเขาเป็นอย่างยิ่ง บางทีวิชั่นดินที่เซียวเถาถือครองอาจเป็นสิ่งแสดงถึงบางสิ่งในตัวของเขาที่ไม่เคยเปิดเผยต่อผู้ใดมาก่อน

แต่อย่างไรก็ดี เพื่อนๆในกลุ่มไม่ค่อยมีใครเรียกชื่อจริงของเขาสักเท่าไรนัก โดยมากมักเรียกเขาติดปากด้วยคำว่า "Urchin" (ที่แปลว่าเด็กเหลือขอ) หรือไม่ก็ "นายหอยเม่น" (ที่เรียกว่า Urchin เหมือนกัน)


2: The Briefing

ภาพของ "จอย" ผู้ดูแลสมาคมนักผจญภัยแห่งเมือง Travian (ในรูปคือน้อง Orn BNK48)

นักผจญภัยทั้งสี่ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกันและกันเสียทีเดียว พวกเขาต่างเคยเห็นหน้าค่าตากันบ้างเวลามาหางานหรือรับค่าตอบแทนที่สมาคมนักผจญภัยแห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาไม่นานในการทำความรู้จักกัน 

"อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน" พวกเขาก็ได้ยินเสียงใสๆทักทายพวกเขา เมื่อทุกคนหันไปก็ได้พบกับ "จอย" ผู้ดูแลสมาคมนักผจญภัยแห่งนี้ เธอเดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสที่เพียงเห็นก็รู้สึกเหมือนฤดูใบไม้ผลิมาเยือน เธอเข้ามาถามไถ่ว่าเหล่านักผจญภัยจะรับเครื่องดื่มหรือขนมทานเล่นอะไรหรือไม่ในระหว่างที่รอผู้ว่าจ้าง Pyra (ที่ดูออกจะตื่นเต้นออกนอกหน้าไปหน่อย) ขอคุกกี้, ชินโนะสุเกะขอชาแบบอินาซึม่า, Cracker ขอเหล้าแต่หัววัน ส่วนเซียวเถาเหมือนไม่รู้ว่าจะรับอะไรดีเลยได้แต่นั่งเงียบและซ่อนใบหน้าส่วนหนึ่งไว้ใต้ผ้าพันคอ

ไม่นานนักจอยก็กลับมาพร้อมเครื่องดื่มตามที่เหล่านักผจญภัยได้ขอไว้ โดยเธอได้นำนมมินท์สูตรพิเศษของสมาคมนักผจญภัยมาเสิร์ฟให้เซียวเถา หรือ "พ่อหนุ่มนักผจญภัยจากหลีเยว่" ตามที่เธอชอบเรียก

และไม่นานหลังจากที่จอยนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ อาจารย์อัลเบิร์ตจากโรงเรียนสอนเล่นแร่แปรธาตุก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เขาเป็นชายวัยกลางคนดูภูมิฐานและคงแก่เรียน เขาสวมแว่นประหลาดที่เลนส์ทั้งสองเป็นสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำและมีประกายวิบวับส่องแสงออกมาจากภายใน ดูไปคล้ายท้องฟ้ายามราตรีที่มีดวงดาวพร่างพราวเต็มผืน

เขาทักทายเหล่านักผจญภัย ทุกครั้งที่เขาทักทายใครเขาก็จะขยับแว่นพลางเพ่งมองไปที่นักผจญภัยคนนั้นและบ่นพึมพำกับตัวเอง แต่คนอื่นก็พอจะได้ยินและจับใจความได้บ้าง "คนนี้วิชั่นธาตุไฟสินะ ส่วนคนนี้ธาตุน้ำ โอ้! มีวิชั่นธาตุสายฟ้าด้วยสินะ ส่วนพ่อหนุ่มคนนี้เป็นธาตุดิน" ดูเหมือนว่าอาจารย์อัลเบิร์ตสามารถมองเห็นได้ว่าผู้คนมีวิชั่นธาตุอะไร

หลังจากทักทายกันเรียบร้อย อาจารย์อัลเบิร์ตก็เริ่มเล่าเรื่องโดยละเอียด เขาเล่าว่ารถสินค้านั้นถูกคุมมาโดยคนจากสำนักคุ้มภัยสองคนและคนดูแลรถ ภายในรถมีวัตถุดิบสำหรับปรุงยาและผลึกสายฟ้าจำนวนหนึ่งซึ่งถูกบรรจุอยู่ในภาชนะพิเศษเพื่อป้องกันการทำปฏิกิริยาธาตุ เมื่อมาถึงชายป่าวายุกระซิบในเวลาโพล้เพล้พวกเขาก็ถูกลอบโจมตี อยู่ๆก็มีควันพวยพุ่งออกมาพร้อมกับลูกไฟจำนวนมาก ทั้งควันและฝุ่นจากการระเบิดของลูกไฟทำให้พวกเขาแทบมองไม่เห็นอะไรเลย เมื่อควันและฝุ่นจางลงรถสินค้าก็หายไปแล้ว ทิ้งไว้แต่เพียงรอยลากจากถนนเข้าไปยังป่าเท่านั้น

นักผจญภัยพยายามถามข้อมูลจากอาจารย์อัลเบิร์ตเพิ่มเติมแต่ก็ดูเหมือนว่าอาจารย์แกก็ไม่รู้ข้อมูลเท่าไหร่ เพราะฟังเขาเล่ามาอีกที ในที่สุดเมื่อใกล้เวลาสอนคาบแรกอาจารย์อัลเบิร์ตจึงขอตัว ก่อนไปได้บอกกับเหล่านักผจญภัยว่าเขาได้ฝากที่อยู่ของสำนักคุ้มภัยที่ผู้คุ้มกันรถสินค้าทั้งสองคนสังกัดอยู่ไว้ให้ที่น้องจอยแล้ว และเขายังได้จัดม้าไว้ให้ที่ประตูเมืองด้านหน้า หากพร้อมแล้วสามารถไปรับม้าได้เลย

หลังจากที่อาจารย์อัลเบิร์ตกลับไป เหล่านักผจญภัยก็ตกลงกันว่าน่าจะไปสืบหาเบาะแสที่สำนักคุ้มภัยกันก่อนจึงได้ไปบอกลาน้องจอยและรับที่อยู่ของสำนักคุ้มภัยมา นอกจากที่อยู่แล้วก็ยังมีแว่นตาข้างเดียวฝากเอาไว้ด้วย ลักษณะเลนส์เหมือนกับแว่นตาที่อาจารย์อัลเบิร์ตใส่อยู่ไม่มีผิดเพี้ยน Pyra ที่เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุหยิบมันขึ้นมาดูและรู้ได้ทันทีว่ามันคือแว่นสำหรับตรวจจับพลังงานธาตุ


3: On the way

เหล่านักผจญภัยได้มาถึงสำนักคุ้มภัยและถามหาผู้คุ้มภัยที่ทำหน้าที่ในวันนั้น ผู้จัดการที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการแจกแจงงานและออเดอร์อาหารได้แต่เพียงบุ้ยใบ้ไปทางโต๊ะตัวหนึ่งทางด้านใน เหล่านักผจญภัยจึงเดินไปตามทิศทางนั้นและพบกับผู้คุ้มกันสองคนที่กำลังนั่งจิบชายามเช้ากันอยู่ 

"ดีจ้า" Pyra เดินเข้าไปทักทายชายทั้งสองคน แต่เมื่อหันมามองทางต้นเสียงทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะงุนงงนิดหน่อยว่าเสียงมาจากไหน จน Cracker ที่ยืนดูอยู่ต้องชี้ไปที่ Pyra ผู้ที่สูงไม่พ้นขอบโต๊ะ ทั้งสองมองลงไปและทำท่าประหลาดใจเล็กน้อย

"โอ้! สวัสดีแม่หนู มีธุระอะไรกับพวกข้าอย่างนั้นรึ" ชายคนหนึ่งกล่าวพลางเขยิบที่นักผจญภัยทั้งสี่สามารถเอาเก้าอี้มานั่งร่วมโต๊ะได้ เมื่อจัดแจงที่นั่งกันดีแล้วพวกเขาจึงสอบถามเรื่องการดักปล้นรถสินค้าที่ชายป่าวายุกระซิบทันที ซึ่งจากการสอบถามนั้นพวกเขาได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าควันที่พุ่งขึ้นมาก่อนที่จะมีลูกไฟจำนวนมากพุ่งตามมานั้นมีลักษณะคล้ายกับระเบิดควันมากกว่าควันจากเวทมนตร์หรือพลังธาตุ แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมไปกว่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าควรรีบไปสำรวจที่เกิดเหตุจะดีกว่า

ระหว่างเดินทางไปขึ้นมาที่หน้าประตูเมือง Pyra (อีกแล้ว) ก็ดันเหลือบไปเห็นประกาศของทางการเกี่ยวกับโจรปล้นสุสานที่ออกอาละวาดในช่วงนี้ ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับระเบิดควันที่ได้มาจากสำนักคุ้มภัยทำให้พวกเขาสงสัยว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวกับพวกโจรปล้นสุสานก็เป็นได้ ดังนั้น Pyra จึงใช้ประโยชน์จากการเป็นคนมีชื่อเสียงของเธอในการเดินเข้าไปหาข้อมูลกับทหารยามที่เดินลาดตระเวนอยู่

"อ้าว ว่าไงแม่หนูระเบิดแล็บ" คำทักทายแรกของทหารยามบ่งบอกถือชื่อเสียงของ Pyra ได้เป็นอย่างดี

ทหารยามสรุปให้ฟังว่าปกติพวกโจรปล้นสุสานมักเข้าไปขโมยของตามโบราณสถานต่างๆหรือพวกซากปรักหักพัง แต่ในช่วงหลังๆมานี้เหมือนพวกมันเริ่มมีการขโมยและดักปล้นผู้คนทั่วไปมากขึ้น ทางการกำลังหาทางปราบพวกนี้อยู่ เลยติดประกาศให้ชาวเมืองระวังกันไว้ก่อน

เมื่อสอบถามเรียบร้อยเหล่านักผจญภัยก็ได้เดินทางไปยังประตูเมืองเพื่อขึ้นม้า


3: ป่าวายุกระซิบ

การต่อสู้กับ Hilichurl ในป่าวายุกระซิบ

ในที่สุดเหล่านักผจญภัยก็เดินทางมาถึงชายป่าวายุกระซิบซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ พวกเขาลงมาและเริ่มลงมือตรวจสอบ ในเบื้องต้นพวกเขาพบพื้นถนนที่เป็นหลุมบ่อจากการระเบิดของลูกไฟและรอยลากรถสินค้าเข้าไปในป่า เมื่อลองตรวจสอบหลุมบ่อพวกนั้นพวกเขาก็พบว่ามันมีเศษแก้วและเศษสไลม์ไฟตกอยู่

พวกเขาตัดสินใจเดินตามรอยเข้าไปในป่าวายุกระซิบอย่างเงียบเชียบจนถึงชะง่อนผาแห่งหนึ่ง พวกเขาพบกับพวก Hilichurl กำลังพักผ่อนกันอยู่ใต้ชะง่อนผา เลยไปนิดหน่อยพวกเขาเห็นรถสินค้าคันหนึ่งจอดอยู่ มี Hilichurl สองตัวกำลังค้นสินค้าในรถอยู่ ชินโนะสุเกะกับเซียวเถาจึงอาสาไปสอดแนมบริเวณรถสินค้าโดยย่องไปตามเงาไม้

แต่ระหว่างการย่องไปนั้นชินโนะสุเกะที่เดินตามหลังเซียวเถาดันเหยียบถูกกิ่งไม้แห้งบนพื้น เสียงไม้ลั่นดึงความสนใจของพวก Hilichurl ที่พักผ่อนอยู่ แต่ด้วยประสบการณ์ในวิชาชีพนินจาทำให้เขาสามารถพรางตัวเข้าไปในเงาไม้ได้ทันก่อนที่พวก Hilichurl จะสังเกตเห็น

เมื่อเข้าไปใกล้พอ ทั้งสองได้ทำการซ่อนตัวและสอดแนมรถสินค้าจากระยะไกล พวกเขาเห็นว่ารถสินค้านั้นถูกเปิดและภาชนะพิเศษที่บรรจุผลึกสายฟ้าก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนพวก Hilichurl ที่กำลังค้นๆอยู่ก็ดูจะสับสนว่าของในรถนั้นคืออะไร ดูๆไปไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

หลังจากเก็บข้อมูลเรียบร้อยทั้งสองคนจึงย่องกลับทางเดิม ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งชินโนะสุเกะผู้หลงทิศนั้นเลี้ยวผิดในตอนสุดท้าย! แทนที่เขาจะกลับไปยังบริเวณที่เพื่อนๆรออยู่เขากลับไปโผล่กลางดง Hilichurl แทน และการปรากฏตัวแบบกะทันหันนี้เองก็ได้ทำให้พวก Hilichurl คิดว่าพวกเขาจะมาบุกพื้นที่ของพวกมันและหยิบอาวุธเข้าโจมตีใส่ชินโนะสุเกะทันที

การต่อสู้อุบัติขึ้น  Mitachurl ที่เปรียบเสมือนหัวหน้ากลุ่มนั้นได้เข้าโจมตีชินโนะสุเกะด้วยขวานยักษ์ แต่ก็ไม่สามารถฟันถูกนินจาผู้ว่องไวได้ ส่วนพวกก Hilichurl ก็ต่างวิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อโจมตีซ้ำ Cracker ที่เห็นท่าไม่ดีจึงได้พุ่งโจมตีด้วยหอกคู่กาย ทะลวงฝ่าแนวป้องกันเข้าไปช่วยชินโนะสุเกะได้สำเร็จ ส่วน Pyra และเซียวเถาคอยสนับสนุนการโจมตีจากระยะไกล โดยเฉพาะ Pyra ที่ใช้พลังธาตุของเธออัดผ่านสื่อเวทและระเบิด Samachurl หายไปทันทีถึงสองตัว

แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ราบรื่นนักเมื่อ Mitachurl ได้บุกเข้าไปเพื่อจัดการกับ Pyra และเซียวเถา มันกระโดดฟันด้วยท่า Kaboom Axe สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งพื้นที่ ส่วนพวก Hilichurl ที่เหลือก็เริ่มโจมตีด้วยการโยนสไลม์ไฟใส่ชินโนะสุเกะและ Cracker ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้น แต่ด้วยการโจมตีประสานระหว่างหอกที่เคลือบด้วยพลังจากวิชั่นน้ำและดาวกระจายที่แฝงด้วยพลังจากวิชั่นสายฟ้า พวกเขาทั้งสองคนก็สามารถล้มพวก Hilichurl ลงได้ 

อีกด้าน Pyra เปิดการโจมตีด้วยระเบิดไฟ รุนแรงจนขาของ Mitachurl หักไปข้างหนึ่ง เซียวเถาใช้โอกาสนี้ในการกระโดดถีบซ้ำและใช้แรงกระโดดจากการถีบนั้นดีดตัวเองขึ้นไปและใช้ธนูที่ประกอบเป็นบูมเมอแรงฟันปิดฉากการต่อสู้


4: ถ้ำลับโจรปล้นสุสาน

"เสาไฟ" ของ Pyra

หลังจากที่กำจัดพวก Hilichurl เรียบร้อย เหล่านักผจญภัยก็ได้กลับมาทำการแกะรอยอีกครั้ง พวกเขาเดินไปสำรวจรถสินค้าที่ถูกทิ้งเอาไว้ เมื่อดูในรถพบว่าที่เหลือไว้มีเพียงวัตถุดิบในการทำโพชั่นเท่านั้น ส่วนพวกแร่หรือผลึกต่างๆนั้นไม่ปรากฏให้เห็น ภาชนะพิเศษสำหรับบรรจุผลึกสายฟ้าก็ไม่อยู่ในรถเช่นกัน

แต่เนื่องจากผลึกสายฟ้าเป็นแร่ที่มีพลังธาตุเข้มข้น ดังนั้นเมื่อนักผจญภัยนำแว่นตรวจจับพลังธาตุส่องดูก็พบเห็นร่องรอยของผลึกสายฟ้าได้ทันที พวกเขาเดินตามรอยพลังธาตุนั้นเข้าไปในป่าจนมาถึงปากถ้ำแห่งหนึ่งและหยุดดูลาดเลาอยู่หน้าปากถ้ำ เมื่อเห็นว่าสงบดีแล้วทั้งหมดจึงค่อยๆย่องเข้าไป

พวกเขาพบว่าภายในถ้ำนั้นไม่มีคนอยู่ เมื่อเข้ามาถึงบริเวณโถงกลางก็พบว่ามีทางแยกไปทางซ้าย, ทางขวา และตรงไป พวกเขาตัดสินใจตามรอยธาตุสายฟ้าไปทางขวาก่อน ก่อนเข้าไป Pyra ก็ได้ใช้วิชั่นของเธอผสานกับทักษะการประดิษฐ์ตั้ง "เสาไฟ" ไว้คอยระวังภัย หากมีศัตรูเข้ามาในอาณาเขตมันจะยิงไฟใส่ทันที

ภายในห้องทางขวานั้นมีลักษณะเป็นห้องทดลองการเล่นแร่แปรธาตุ พวกเขาพบภาชนะพิเศษสำหรับบรรจุผลึกสายฟ้าอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง เมื่อลองเอาแว่นตรวจจับพลังธาตุส่องดูก็พบร่องรอยของผลึกสายฟ้ากระจายอยู่ทั่วห้อง ดูจากอุปกรณ์ในห้องประกอบคาดว่าพวกโจรปล้นสุสานน่าจะนำผลึกสายฟ้าไปใช้งานจนหมดแล้ว

เมื่อไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม นักผจญภัยทั้งหมดจึงย้ายไปสำรวจห้องทางซ้ายแทน โดยห้องนี้เป็นเหมือนกับห้องประชุม มีโต๊ะตัวใหญ่และกระดานตั้งอยู่ ที่โต๊ะพวกเขาพบแผนที่เขต มีเส้นสีแดงลากจากตำแหน่งปัจจุบันไปตามแม่น้ำจนถึงเมืองทราเวียน ส่วนบนกระดานมีแผนผังอาคารอยู่ หลังจากเพ่งกันสักพักจึงได้รู้ว่ามันคือแผนผังธนาคารเมืองทราเวียนนั่นเอง เหล่านักผจญภัยจึงสรุปกันว่าพวกโจรปล้นสุสานน่าจะวางแผนใช้ผลึกสายฟ้าที่พวกมันขโมยมาในการบุกปล้นธนาคาร

พวกเขาใช้แว่นตรวจจับพลังธาตุในการตามรอยพวกโจรปล้นสุสาน พบว่าร่องรอยนั้นนำไปสู่ทางออกอีกทางซึ่งเป็นท่าเรือขนาดเล็ก ที่ท่ามีเรือเล็กจอดอยู่ ดูจากแผนที่ในห้องและร่องรอยที่ท่าเรือ พวกมันน่าจะเดินทางไปเมืองทราเวียนผ่านทางแม่น้ำเป็นแน่

Craker กะลาสีผู้ขับเรือได้หวาดเสียวที่สุดในทะเลฝั่งตะวันออกกระโดดลงเรือไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยนักผจญภัยคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นทะเลหรือแม่น้ำเขาก็สามารถแล่นเรือให้ไปถึงที่หมายได้โดย หวาดเสียว ปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด

ด้วยฝีมือของ Cracker พวกเขาก็มาถึงเมืองทราเวียนได้โดยปลอดภัย


5: ธนาคารเมืองทราเวียน

การต่อสู้กับโจรปล้นสุสานในธนาคารเมืองทราเวียน

นักผจญภัยทั้งสี่ล่องเรือมาจนถึงคูน้ำเมืองทราเวียน (แม้จะกำลังเวียนหัวจากฝีมือล่องเรือของ Cracker แต่แลกกับการมาถึงเมืองทราเวียนเร็วขึ้นก็ถือว่าไม่แย่นัก) พวกเขารีบผูกเรือแล้วไปที่ประตูเมือง ยังไม่ทันถึงประตูเมืองพวกเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดและควันลอยออกมาจากในเมือง ดูเหมือนพวกเขาจะมาถึงช้าเกินไป

"อ้าว นักผจญภัย มาทำอะไรกันตรงนี้ล่ะ" ทหารยามคนหนึ่งที่ผ่านมาทักทายเหล่านักผจญภัย ท่าทางของเขารีบร้อนและน้ำเสียงดูเป็นกังวล เหล่านักผจญภัยจึงเล่าให้ฟังเรื่องที่ไปค้นพบแผนปล้นธนาคารเมืองทราเวียนในถ้ำลับของโจรปล้นสุสาน

"เป็นอย่างนี้นี่เอง แย่จริงๆ พวกมันเข้ามาตอนไหนทำไมเราไม่รู้ตัวเลย บัดซบจริงๆ ตอนนี้พวกมันจับน้องจอยเป็นตัวประกันแล้วด้วย!" ทหารยามสบถออกมาอย่างหัวเสีย ซึ่งทำให้เหล่านักผจญภัยอยู่ไม่สุขเช่นกัน แน่นอนว่าเมืองกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าคือน้องจอยกำลังตกอยู่ในอันตราย!

แต่ถึงจะเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องน้องจอยอย่างไรพวกเขาก็ยังมีสติพอที่จะนึกถึงแผนที่และแผนผังที่พวกเขาเจอในถ้ำ เมื่อหยิบขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้งก็พบว่าพวกมันน่าจะใช้เส้นทางผ่านท่อระบายน้ำแล้วใช้ระเบิดสร้างทางเข้า และเมื่อไปตรวจสอบบริเวณคูเมืองที่เชื่อมกับท่อระบายน้ำดูพวกเขาก็พบว่ามันมีเรือจำนวนหนึ่งจอดทิ้งไว้

ไม่รอช้า ทั้งสี่รีบตามลงไปด้านล่าง ก่อนตามรอยพวกโจรปล้นสุสานเข้าไปในท่อพวกเขาได้เผาเรือของพวกมันทิ้งก่อนเพื่อตัดทางหนี หลังจากนั้นจึงตามรอยจากพลังธาตุไปจนมาถึงบริเวณหนึ่งซึ่งเพดานถูกระเบิดเป็นรู พวกเขาค่อยๆปีนขึ้นไปและพบว่าพวกเขามาโผล่ที่ห้องซ่อมบำรุงในธนาคารเมืองทราเวียน

ชินโนะสุเกะยื่นหน้าออกไปสอดแนมภายนอกและพบว่าที่บริเวณหลังเคาท์เตอร์ (ที่ติดกับห้องซ่อมบำรุง) มีโจรปล้นสุสานสองคนเฝ้าอยู่ หนึ่งในนั้นล็อคคอน้องจอยเอาไว้ ซึ่งน้องจอยมีท่าทีตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด ชินโนะสุเกะจึงกลับเข้าห้องมาเพื่อหารือกับเพื่อนๆอีกสามคน

พวกเขาตกลงกันว่าน่าจะต้องหลอกล่อพวกมันให้เข้ามาทีละคน เพราะถ้าบุกเข้าไปทั้งๆที่น้องจอยถูกจับเป็นตัวประกันอยู่อาจเกิดอันตรายกับน้องจอยได้ เมื่อตกลงกันแล้ว Pyra จึงได้ประดิษฐ์ "น้องกบ" ที่จะสร้างเสียงเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อบีบขึ้นมา และก่อนที่จะบีบเธอก็ได้สร้างเสาไฟกินรีไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด

"อ๊บบบบบ" น้องกบส่งเสียงร้องออกมา โจรปล้นสุสานคนที่ไม่ได้ล็อคคอน้องจอยอยู่เดินเข้ามาและถูกเหล่านักผจญภัยลากไปมัดกับเสาไฟแทบจะในทันทีที่โผล่หน้าเข้ามา และไม่รอช้าบีบน้องกบอีกรอบเพื่อเรียกอีกคนเข้ามา แต่เนื่องจากอีกคนกำลังล็อคคอน้องจอยอยู่ มันเลยจำเป็นต้องมัดน้องจอยเอาไว้กับเคาท์เตอร์ธนาคารก่อนที่จะเดินไปดู ก่อนไปมันได้ตะโกนบอกโจรคนอื่นในห้องนิรภัยที่อยู่ติดกันว่า

"หัวหน้าช่วยเร่งมือหน่อย ข้าว่ามันมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น ไอ้หัวแดงมันหายไปสักพักแล้ว" พูดจบก็เดินไปดู ในมือเตรียมระเบิดขวดไว้พร้อม

ทันทีที่มันโผล่หน้ามาที่ประตู ยังไม่ทันที่นักผจญภัยทั้งสี่จะได้พุ่งเข้าไปรวบตัว โจรปล้นสุสานคนนั้นก็เขวี้ยงระเบิดขวดเข้ามาก่อน ด้วยระยะและพื้นที่อันน้อยนิดของห้องซ่อมบำรุงนี้คงยากที่จะหลบ

หลบไม่ได้ก็ไม่ต้องหลบ! สิ่งที่ Pyra ทำคือการโยนระเบิดสวนไปอีกลูก! ระเบิดปะทะกันกลางอากาศและระเบิดออก ปลดปล่อยแรงอัดกระแทกส่งโจรปล้นสุสานที่อยู่ตรงหน้าประตูกระเด็นไปติดเคาท์เตอร์ด้านนอก ส่วนเหล่านักผจญภัยหาที่กำบังได้ทัน และไม่รอให้ความวุ่นวายสงบ ชินโนะสุเกะที่ไหวตัวก่อนกระโดดออกจากห้องตามไปรวบตัวโจรปล้นสุสานที่กระเด็นออกไป

แรงระเบิดส่งผลให้โจรปล้นสุสานในอีกห้องรู้ตัว พวกมันวางทรัพย์สินที่กำลังกวาดลงถุงไว้แล้วเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร Pyra ที่กระโดดตามชินโนะสุเกะออกมาก็รวบรวมพลังไว้ที่สื่อเวทของเธอและปลดปล่อยระเบิดไฟอัดเข้าไปในห้องนิรภัยหมายจะระเบิดกองโจรทิ้งด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ทุกอย่างดูสงบ แต่อยู่ๆก็มีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากม่านควัน หมัดขวาของมันชกใส่ Pyra ด้วยความรวดเร็วและรุนแรงจนได้ยินเสียงเสียดสีกับอากาศ เคราะห์ดีที่ Pyra ใช้อุปกรณ์ที่เธอแบกมาสร้างเกราะแบบหยาบๆป้องกันไว้ได้

ไม่นานควันก็จางไป เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ของหัวหน้าโจรปล้นสุสาน ที่มือของมันทั้งสองข้างมีปลอกแขนและสนับมือรูปร่างประหลาดอยู่ เมื่อมันสะบัดมือก็มีผลึกสายฟ้าปรากฏขึ้นที่สนับมือ ที่แท้ผลึกสายฟ้าที่ถูกขโมยไปก็ถูกนำมาสร้างอาวุธนี่เอง

เมื่อหัวหน้าของพวกมันปรากฏตัว Cracker กับเซียวเถาก็ไม่รอช้า รีบบุกโจมตีทันที แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะประเมินพลังของโจรปล้นสุสานผู้นี้ต่ำเกินไป การโจมตีด้วยธนูถูกสกัดไว้ได้ด้วยการเบี่ยงตัวและคว้าลูกธนูเอาไว้ด้วยมือเปล่า! ส่วนกระบวนท่าหอกของ Cracker ก็ถูกหลบได้ด้วยการเบี่ยงตัวแบบเดมป์ซีย์โรลล์ และในจังหวะที่ทุกคนกำลังอึ้งกับทักษะอันเป็นเลิศของหัวหน้าโจรปล้นสุสานอยู่นั้น ระเบิดเพลิงลูกหนึ่งก็ลอยเข้ามากลางวงต่อสู้

โจรปล้นสุสานคนแรกที่ถูกเหล่านักผจญภัยล่อลวงเข้าไปในห้องซ่อมบำรุงหลุดออกมาได้แล้ว! ระเบิดเพลิงกระทบพื้นเกิดเป็นแอ่งไฟขนาดย่อมสร้างความปั่นป่วน และในจังหวะที่ปั่นป่วนนั้นหัวหน้าโจรปล้นสุสานได้ตั้งการ์ดและมุดเข้ามาถึงตัว Cracker สาวหมัดที่มีผลึกสายฟ้าติดอยู่ใส่กะลาสีผู้ไม่ทันได้ระวังตัว และทันทีที่หมัดถูกปล่อยออกไป ผลึกสายฟ้าที่สันหมัดก็ทำปฏิกิริยาโอเวอร์โหลดกับไฟจากระเบิดขวด กลายเป็นระเบิดปฏิกิริยาธาตุที่ระเบิดทุกคนในวงต่อสู้! เป็นการปล่อยหมัดเดียวแต่ได้รับบาดเจ็บกันทุกคน

แต่โอเวอร์โหลดก็ไม่ใช่สิ่งที่โจรใช้ได้แค่เพียงฝ่ายเดียว ท่ามกลางความวุ่นวายนั้นชินโนะสุเกะอัดพลังสายฟ้าของตัวเองใส่ดาวกระจายและซัดใส่หัวหน้ากองโจรที่กำลังตั้งหลักหลังการปล่อยหมัดอันรุนแรง กระแสไฟฟ้าทำให้ร่างมันกระตุกไปเล็กน้อย ยังเห็นประกายสายฟ้าสีม่วงแล่นไปทั่วร่าง และในจังหวะนั้นที่ Pyra ก็ชาร์จสื่อเวทด้วยพลังที่เหลืออยู่ของเธอ...

และแล้วทุกคนก็ได้รับรู้กันในวันนั้นว่าฉายา "แม่หนูระเบิดแล็บ" ที่ใครๆต่างเรียกเธอนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ...


6: อีกวันที่ น้องจอย เมืองปลอดภัย


สมาคมนักผจญภัย ภาพจาก Art station

นักผจญภัยทั้งสี่นั่งรออยู่ที่โต๊ะตัวเดิมกับวันที่มารับงาน ทุกคนฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้วแต่ก็ยังมีพวกแผลถลอกและแผลไฟไหม้เล็กๆน้อยๆที่ต้องรักษาต่ออีกหน่อย มีเพียง Pyra ที่ไร้รอยขีดข่วน (เพราะเป็นคนสร้างรอยขีดข่วนให้กับคนอื่นนั่นเอง)

เหตุการณ์ในตอนนั้นหลังจากที่ Pyra ชาร์จพลังใส่สื่อเวทและเรียกเสาไฟกินรีขนาดใหญ่ขึ้นมา ที่ปากของกินรีนั้นพ่นไฟออกมาและทำปฏิกิริยาโอเวอร์โหลดกับพลังสายฟ้าของชินโนะสุเกะ เกิดแรงระเบิดที่กวาดล้างโจรปล้นสุสานเกลี้ยงภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ดีที่ใครสักคนในที่นั้นเอาตัวเข้าปกป้องน้องจอยจากแรงระเบิดเอาไว้ได้ น้องจอยผู้เป็นฤดูใบไม้ผลิของทุกคนจึงไร้รอยขีดข่วน

แม้หัวหน้าโจรปล้นสุสานจะสามารถเอาตัดรอดจากแรงระเบิดมาได้ แต่มันก็บาดเจ็บเกินกว่าจะทำอะไรต่อ สุดท้ายมันจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวกับทหารยาม เหตุการณ์ในวันนั้นจึงคลี่คลายลงไป

ส่วนในวันนี้นั้นพวกเขามารับค่าตอบแทนจากงาน ซึ่งหลังจากนั่งรอกันสักพักน้องจอยก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถาดใส่อาหารและเครื่องดื่มใบใหญ่

"สวัสดีค่าา" เทอทักทายพลางเสิร์ฟของว่างให้แต่ละคน คุกกี้สำหรับ Pyra, ไวน์จากเมือง Mondstadt สำหรับ Cracker, ชาแบบอินาซึม่าสำหรับชินโนะสุเกะ และนมมินต์สูตรพิเศษของสมาคมนักผจญภัยสำหรับเซียวเถา "จอยต้องขอบคุณทุกคนด้วยนะคะที่ช่วยจอยเอาไว้ ถ้าไม่ได้ทุกคนช่วยไว้จอยต้องแย่แน่ๆเลยค่ะ" น้องจอยกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงสดใสและสีหน้าออดอ้อน เพียงแค่เธอยิ้มก็ดูเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิได้มาเยือน

นักผจญภัยต่างลืมอาการบาดเจ็บของตัวเองไปกับฤดูใบไม้ผลิ ต่างคนต่างหยิบของว่างตรงหน้าขึ้นมาลิ้มรส ในระหว่างที่น้องจอยวางซองสีน้ำตาลลงตรงหน้าของแต่ละคน

"อาจารย์อัลเบิร์ตไม่ว่างมาพบทุกคนด้วยตัวเอง แต่ก็ได้ฝากตั๋วแลกเงินมาให้แล้วนะคะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สินค้าคืนแต่อาจารย์ก็ไม่ได้หักเงินค่าจ้างแต่อย่างใด ทุกคนยังได้เงินเต็มจำนวนเหมือนเดิมนะคะ ส่วนแว่นตรวจจับพลังธาตุก็สามารถเก็บไว้ได้เลย ถือเป็นค่าตอบแทนเพิ่มเติมสำหรับการช่วยเมืองนี้ไว้"

เมื่อน้องจอยอธิบายจบก็ขอตัวไปจัดการงานเอกสารต่อ ปล่อยให้เหล่านักผจญภัยนั่งพักผ่อนและอิ่มเอมกับของว่างในวันอันแสนสงบสุข

วันนี้เป็นอีกวันที่ น้องจอย เมืองปลอดภัย



ภาคผนวก: รายละเอียดการ Set up

ในส่วนนี้คือแนวทางการสร้างเกมในธีม Genshin Impact จากกฏพื้นฐานของ FATE ซึ่งส่วนมากเป็นการกำหนดแนวทางในการเขียนคุณสมบัติ (Aspect) และความสามารถพิเศษ (Stunt) รวมทั้งกฏเพิ่มเติมเกี่ยวกับปฏิกิริยาธาตุและการติดคุณสมบัติธาตุให้แก่ศัตรู

อย่างไรก็ดี เวอร์ชันที่นำมาเล่นนี้เป็นเวอร์ชันแรกที่ยังไม่ได้ทำการปรับสมดุลต่างๆ ซึ่งหลังจากได้ลองเล่นจริงแล้วก็พบว่าต้องปรับใหม่หลายอย่างอยู่เหมือนกัน

1. คุณสมบัติ

แนวคิดตั้งตั้น

แนวคิดตั้งต้นประกอบด้วย 2 ส่วนคือ อาชีพและวิชั่นที่ถือครอง เช่น นักเล่นแร่แปรธาตุผู้ถือครองวิชั่นดิน, นักล่าปีศาจที่ถือครองวิชั่นน้ำแข็ง เป็นต้น เป็นการกำหนดคร่าวๆว่าตัวละครสามารถทำอะไรได้บ้าง

คุณสมบัติอาวุธ

บอกว่าตัวละครนั้นใช้อาวุธชนิดไหน อาจระบุเป็นชื่ออาวุธหากเป็นอาวุธที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งอาวุธมีทั้งหมด 5 ประเภทได้แก่ ดาบ, ดาบใหญ่, หอก, ธนู และ สื่อเวท โดยอาวุธแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป

  • ดาบ เป็นอาวุธที่มีความคล่องตัวสูง ใช้โจมตีหลายเป้าหมายหรือว่าสามารถฝังพลังธาตุเข้าไปได้ง่ายด้วยขนาดที่เล็กของมัน ชาร์จโจมตีด้วยการจ่ายความกดดันทางกายภาพ เมื่อชาร์จโจมตีจะได้รับโบนัส +2 และโจมตีต่อได้ 1 ครั้ง การโจมตีทั้งสองครั้งสามารถเลือกเป้าหมายที่ต่างกันได้
  • ดาบใหญ่ เป็นอาวุธที่เชื่องช้า แต่โจมตีรุนแรง หากเจอกับศัตรูที่มีโล่หรือพลังป้องกันสูง ดาบใหญ่คือสิ่งที่คุณจะนึกถึง แต่มันก็อาจเสียเปรียบเมื่อต้องสู้กับศัตรูที่มีความรวดเร็วเช่นกัน สามารถชาร์จผ่านการใช้การป้องกันเต็มระดับเท่านั้น เมื่อชาร์จโจมตีจะได้รับโบนัส +2 เพิ่มเติมจากบูสต์ (ถ้าเรียกใช้บูสต์ด้วยเป็น +4) และเพิ่มระดับอาวุธ 1 (เพิ่มความเสียหาย 1 แต้มเมื่อโจมตีสำเร็จ) สามารถแบ่งโจมตีได้หลายเป้าหมาย
  • หอก เป็นอาวุธที่เร็วและคล่องตัว ชาร์จด้วยการจ่ายควากดดันทางกายภาพเมื่อชาร์จสามารถพุ่งโจมตีศัตรูที่อยู่ในโซนอื่นที่อยู่ติดกันได้และได้รับบูสต์เมื่อผลทอยออกมาเสมอเป็นอย่างน้อย หากสำเร็จอย่างมีสไตล์จะได้ 2 บูสต์
  • ธนู เป็นอาวุธระยะไกล สามารถโจมตีศัตรูในโซนเดียวกันและโซนติดกันได้ ชาร์จด้วยช่องความกดดันทางจิตใจ หากชาร์จโจมตีจะเพิ่มระยะโจมตีเป็นสองโซนและการโจมตีจะมีพลังธาตุแฝง พร้อมได้รับโบนัส +2
  • สื่อเวท เป็นอาวุธที่ทุกการโจมตีเป็นพลังธาตุ ระยะโจมตีภายในโซนและโซนติดกัน เมื่อชาร์จจะเป็นการโจมตีคลุมทั้งโซน โดยศัตรูแต่ละตัวจะทอยป้องกันแยกกัน โดยจะได้รับโบนัสเท่ากับปริมาณความกดดันทางจิตใจที่จ่าย เช่นใช้ 3 แต้มก็จะได้โบนัส +3

คุณสมบัติอิสระ

ผู้เล่นสามารถเลือกคุณสมบัติอิสระได้สองอย่าง ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งสังกัดของตัวละครหรืออาร์ติแฟคท์ (ในเบื้องต้นอาร์ติแฟคท์จะยังไม่มีให้ใช้ ตกลงกันอีกทีก่อนเล่น) หรืออาจเลือกเป็นภูมิหลังบางอย่างของตัวละครหรือว่าความชำนาญในด้านต่างๆเช่นอดีตนายพราน, พ่อค้าเร่, นักโบราณคดี เป็นต้น


2. ความสามารถพิเศษ

เนื่องจากต้องเล่นกับพลังธาตุเป็นหลัก ดังนั้นความสามารถพิเศษเริ่มเกมสามอย่างจะบังคับเป็นพลังธาตุ 1 อย่าง อีกสองอย่างสามารถเลือกได้อย่างอิสระ ซึ่งควรเป็นความสามารถพิเศษที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของตัวละคร

โดยความสามารถพิเศษประเภทพลังธาตุนั้นจะเป็นตัวกำหนดว่าตัวละครจะใช้การกระทำประเภทไหนในการติดคุณสมบัติธาตุให้แก่ศัตรู เว้นแต่เพียงตัวละครที่ใช้อาวุธประเภทสื่อเวทและธนูที่สามารถติดคุณสมบัติธาตุให้แก่ศัตรูได้แม้ไม่มีความสามารถพิเศษประเภทพลังธาตุ

 
3. คุณสมบัติธาตุ

คุณสมบัติธาตุจะติดตัวศัตรูทันทีเมื่อการกระทำที่มีพลังธาตุแฝงอยู่ให้ผลเสมอหรือว่าสำเร็จ เป็นคุณสมบัติที่สามารถเรียกใช้ฟรีโดยใช้การกระทำที่มีพลังธาตุแฝงเท่านั้น โดยการเรียกใช้จะได้รับโบนัสที่ต่างกันออกไปตามแต่ปฏิกิริยาของธาตุตามที่ระบุดังต่อไปนี้

  • ละลาย: เมื่อใช้การกระทำธาตุไฟใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำแข็ง หรือใช้การกระทำธาตุน้ำแข็งใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุไฟ สามารถเรียกใช้คุณสมบัตินั้นได้ฟรีและรับโบนัส +2
  • ระเหย: เมื่อใช้การกระทำธาตุไฟใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำ หรือใช้การกระทำธาตุน้ำใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุไฟ สามารถเรียกใช้คุณสมบัตินั้นได้ฟรีและได้รับโบนัส +2
  • เยือกแข็ง: เมื่อใช้การกระทำธาตุน้ำแข็งใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำ หรือใช้การกระทำธาตุน้ำใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำแข็ง หากสำเร็จศัตรูจะติดคุณสมบัติเยือกแข็ง ซึ่งจะไม่สามารถกระทำการใดๆได้ตลอดการประมือและถือว่ายังมีคุณสมบัติธาตุน้ำแข็งติดอยู่ สามารถถูกเรียกใช้ฟรีเมื่อโจมตีด้วยดาบใหญ่หรือการกระทำธาตุดิน โดยจะได้รับโบนัส +2 แต่คุณสมบัติเยือกแข็งจะหายไปหลังจากการเรียกใช้นี้
  • นำไฟฟ้า: เมื่อใช้เมื่อใช้การกระทำธาตุสายฟ้าใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำแข็ง หรือใช้การกระทำธาตุน้ำแข็งใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุสายฟ้า หากสำเร็จศัตรูจะติดคุณสมบัตินำไฟฟ้า ซึ่งสามารถเรียกใช้ได้ฟรีหนึ่งครั้ง ได้รับโบนัส +2 เมื่อทำการโจมตีที่ไม่มีธาตุ
  • ชาร์จไฟฟ้า: เมื่อใช้เมื่อใช้การกระทำธาตุสายฟ้าใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุน้ำ หรือใช้การกระทำธาตุน้ำใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุสายฟ้า โดยสามารถเรียกใช้คุณสมบัติธาตุฟรีและได้โบนัส +2 หากสำเร็จจะสร้างความเสียหายธาตุแก่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุ (น้ำหรือสายฟ้า) ทุกตัวในโซน 1 แต้ม
  • โอเวอร์โหลด: เมื่อใช้เมื่อใช้การกระทำธาตุสายฟ้าใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุไฟ หรือใช้การกระทำธาตุไฟใส่ศัตรูที่ติดคุณสมบัติธาตุสายฟ้า หากการกระทำสำเร็จจะสร้างความเสียหายที่แฝงธาตุไฟให้แก่ศัตรูทุกตัวในโซน 1 แต้ม หากศัตรูมีคุณสมบัติธาตุอื่นอยู่ก่อนแล้วจะทำปฏิกิริยาทันที
  • ตกผลึก: เมื่อใช้การกระทำธาตุดินใส่คุณสมบัติธาตุใดๆก็ตามจะสร้างโล่ธาตุที่สามารถดูดซับความเสียหายได้เท่ากับความต่างของผลทอยและสามารถเรียกใช้ได้ฟรีเมื่อต้องป้องกันการโจมตีจากเดียวกับโล่
  • หมุน: เมื่อใช้การการะทำธาตุลมจะเป็นการกระจายคุณสมบัติธาตุของเป้าหมายไปให้แก่ศัตรูทุกตัวในโซนเดียวกัน หากศัตรูมีคุณสมบัติธาตุติดอยู่ก่อนแล้วก็จะเกิดปฏิกิริยาทันที


4. ชาร์จ

การชาร์จโจมตีสามารถทำได้โดยใช้ช่องความกดดัน 1 ช่อง ทางกายภาพ สำหรับอาวุธประเภทดาบ, ดาบใหญ่ และหอก ทางจิต สำหรับสื่อเวทและธนู โดยการชาร์จโจมตีจะได้คุณสมบัติแตกต่างกันไปในแต่ละอาวุธ และระหว่างการชาร์จโจมตีสามารถเรียกใช้คุณสมบัติอาวุธและบูสต์ร่วมด้วยได้ หรืออีกวิธีหนึ่งคือการใช้บูสต์ที่ได้จากการป้องกันเต็มระดับ (เฉพาะดาบใหญ่เท่านั้น)

Comments