[STORY] The Call of Cthulhu เกมที่ควรเป็นแค่ Interactive Novel

Call of Cthulhu

Introduction

เขารู้สึกตัวขึ้นในถ้ำใต้ทะเลท่ามกลางกองซากศพเหม็นเน่าของฉลาม รู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกที่ไหนมาก่อน เขาพยายามหาทางออกไปจากที่นั่นแต่ก็มาถึงทางตันที่โถงถ้ำแห่งหนึ่ง

ภายในโถงถ้ำ กลุ่มคนในผ้าคลุมสีดำกำลังประกอบพิธีกรรมแปลกประหลาดบางอย่าง ท่องบทสวดที่ฟังไม่เป็นภาษาซ้ำไปซ้ำมา แต่สิ่งที่น่าขนลุกกว่าพิธีกรรมเหล่านั้นคือชายคนหนึ่งในวงพิธีที่มีสภาพร่างกายบิดเบี้ยวน่าสยดสยอง ส่วนที่ควรจะเป็นแขนกลับกลายเป็นหนวดปลาหมึกที่บิดไปบิดมา 

แต่แล้วพิธีก็ถูกขัดขวางโดยตำรวจนายหนึ่ง เขาพยายามเข้าจับกุมกลุ่มคนเหล่านั้นแต่ถูกชายที่มีแขนเป็นหนวดปลาหมึกสังหารด้วยพละกำลังที่มากเกินมนุษย์ นายตำรวจคนนั้นล้มลงนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นถ้ำ และครึ่งคนครึ่งอสูรตนนั้นก็เดินเข้ามาหาเขา มือข้างที่ใช้สังหารนายตำรวจคนนั้นยื่นเข้ามา

แล้วเอ็ดเวิร์ด เพียซ ก็ตื่นขึ้นด้วยความหวาดผวาบนโซฟาในสำนักงานนักสืบของเขาในเมืองบอสตัน 

เขาลุกขึ้น รวบรวมสติ มันเป็นบ่ายแก่ๆที่สงบสุขถ้าไม่นับฝันร้ายที่เขาเพิ่งเผชิญ แต่ความเงียบสงบนั้นก็สลายไปเมื่อลูกค้ารายใหม่เดินเข้ามาในสำนักงานของเขาพร้อมกับรูปวาดรูปหนึ่ง เขาคือสตีเฟน เว็บสเตอร์ เศรษฐีนักสะสมวัตถุโบราณที่เพิ่งเสียลูกสาว ซาร่าห์ ฮอว์กิ้น จากอุบัติเหตุไฟไหม้ในเกาะห่างไกลที่ชื่อว่าดาร์ควอเตอร์ โดยตำรวจได้สรุปสำนวนคดีว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากอาการทางจิตของซาร่าห์

สตีเฟนขอร้องให้เอ็ดเวิร์ดช่วยรื้อฟื้นคดีนี้อีกครั้งเพราะเขาไม่เชื่อว่าลูกสาวของเขานั้นเสียสติ เขาได้แสดงรูปวาดแปลกประหลาดที่ซาร่าห์ส่งมาให้เขาก่อนวันที่อุบัติเหตุไฟไหม้จะเกิดขึ้น เอ็ดเวิร์ดมองภาพนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ แม้มันจะเป็นภาพที่แปลกประหลาดแต่มันก็เป็นงานศิลปะชั้นเยี่ยม สตีเฟนยืนยันว่าไม่มีทางที่คนเสียสติจะสามารถเขียนภาพแบบนี้ออกมาได้

เอ็ดเวิร์ดเห็นด้วยกับข้อสังเกตุของสตีเฟน เขาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของคดีและคิดว่ามันอาจมีข้อความบางอย่างที่ซาร่าห์ต้องการส่งถึงพ่อของเธอผ่านทางรูปวาด เขาจึงตัดสินในรับทำคดีนี้และออกเดินทางสู่เกาะดาร์ควอเตอร์โดยไม่รู้เลยว่ามันคือจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่รอคอยเขาอยู่

Edward Pierce ตัวเอกของเกม Call of Cthulhu

What is this game?

Call of Cthulhu เป็นเกม RPG ที่ออกวางขายเมื่อเดือนตุลาคมปี 2018 บน PS4, Xbox และ PC ดัดแปลงมาจาก Tabletop RPG ชื่อเดียวกันของค่าย Chaosium ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมากจาก Cthulhu Mythos ของ H.P. Lovecraft อีกที โดยในเกมเราจะได้สวมบทบาทเป็นนักสืบเอกชนที่ชื่อเอ็ดเวิร์ด เพียซ ออกสืบคดีการตายของครอบครัวฮอว์กิ้นบนเกาะห่างไกลที่ชื่อดาร์ควอเตอร์ก่อนที่จะเข้าไปพัวพันกับลัทธิประหลาดที่บูชาเทพเจ้าโบราณผู้ทรงพลังอำนาจ

ตัวเกมเคลมว่าเป็นเกม RPG สยองขวัญกึ่ง Open World ที่ผู้เล่นต้องทำการสำรวจหาข้อมูลและไขปริศนาในแต่ละฉาก และมีระบบสกิลที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถปลดล็อคบทสนทนากับ NPC, ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งเปิดประตูเพื่อใช้เป็นทางลัดได้

Steven Webster ผู้สงสัยในการตายของลูกสาว

Gameplay

ระบบการรวบรวมข้อมูลในเกม Call of Cthulhu

แม้จะเป็นเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่ต้องสำรวจแผนที่ขนาดใหญ่ แต่เมื่อได้ลองเล่นจริงๆแล้วเราคิดว่ามันให้ความรู้สึกว่ามันเป็น Interactive Novel มากกว่าเกมเพราะเล่นอะไรไม่ได้มากนัก ระบบสกิลก็ไม่ได้สำคัญอย่างที่เราเข้าใจ สกิลที่ใช้บ่อยๆในเกมมีเพียงไม่กี่สกิลและมีผลเพียงแค่ปลดล็อคทางลัดหรือข้อมูลบางอย่างซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ส่งผลต่อการดำเนินเรื่อง

ส่วนการที่เคลมว่าเป็นกึ่ง Open World นั้นก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะเกมจะให้เราเล่นเป็นเส้นตรงจบเป็นบทๆไป โดยในแต่ละบทก็จะมีแผนที่ขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้างให้เราสำรวจและไอเทมก็มีให้เก็บเฉพาะบทนั้นๆ เมื่อเล่นจบบทแล้วก็ไม่สามารถกลับไปสำรวจสถานที่เหล่านั้นได้โดยอิสระ จะกลับไปสำรวจได้ก็ต่อเมื่อเล่นถึงบทที่ต้องเล่นในสถานที่นั้นอีกครั้ง แต่ถึงแม้จะเป็นสถานที่เดียวกันแต่เมื่ออยู่คนละบทก็จะมี Feature ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ใช่สถานที่เดิมที่เราเคยเล่น

การเล่นแบบจบเป็น Chapter ไม่ได้มีอิสระในการสำรวจแต่อย่างใด

ส่วนเรื่องบทสนทนาที่มีผลกระทบต่อฉากจบ อันที่จริงหลายๆอย่างมันก็ Obvious Choice อยู่แล้วว่าต้องเลือกอะไร แต่บางอย่างมันก็ดูเป็นเพียงบทสนทนาที่โคตรธรรมดาแต่พอจบบทสนทนาดันบอกว่าจะส่งผลต่อฉากจบ เราว่าผลกระทบมันไม่กลมกล่อมเท่าไหร่ มันไม่ได้มีความกดดันต่อการเล่นหรือการดำเนินเรื่องอย่าง Witcher 3 หรือ Fallout 4 (ที่จริงเอาไปเปรียบเทียบกับเกมสเกลนั้นมันก็ไม่ค่อยถูกเท่าไหร่)

บทสนทนาธรรมดาๆ แต่บางครั้งดันส่งผลต่อฉากจบแบบไม่รู้ตัว

ระบบ Sanity หรือความมีสติของตัวละครที่เป็นจุดเด่นของเกม Cthulhu สุดท้ายแล้วมันก็มีหน้าที่เพียงแค่ปลดล็อคบทสนทนาบางอย่างและไม่มีผลกระทบต่อเกมเพลย์ ไม่ว่าค่านี้จะสูงหรือต่ำการเล่นก็ยังเหมือนเดิม และการลดลงของ Sanity เกือบทั้งหมดก็เป็นไปตามเนื้อเรื่อง ผู้เล่นจึงแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กับค่านี้เลย ซึ่งทำให้ไม่ค่อยสนใจการมีอยู่ของระบบนี้ไปด้วย ถ้าจะวิจารณ์กันตรงๆคือมีค่านี้ไว้เพื่อเป็นเอกลักษณ์ประจำเฟรนไชส์เฉยๆ

ในส่วนของระบบ Stealth เรียกได้ว่าหยาบมาก AI โง่แบบไม่น่าให้อภัย โดยรวมแล้วไม่ค่อยตื่นเต้น แถมมีฉากให้ Stealth ไม่กี่ฉาก ในแต่ละฉากเล่นแล้วให้อารมณ์เหมือนเล่น Pacman มากกว่าเกมลอบเร้น เล่นแล้วก็ได้แต่สงสัยว่ามันเกมยุคนี้จริงๆเหรอ? โดยรวมไม่ค่อยประทับใจ

ระบบ Skills ในเกม Call of Cthulhu

ระบบ Sanity ในเกม Call of Cthulhu

ระบบ Inventory ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่

Story

ที่จริงแล้วเนื้อเรื่องของนิยาย Lovecraftian นั้นล้วนประกอบด้วยส่วนประกอบเดียวกันและการดำเนินเรื่องที่คล้ายกัน มีเมืองหลอน, คนประหลาด, ลัทธิคลั่ง, โบราณวัตถุ, โรงพยาบาลบ้า, ผู้ยิ่งใหญ่แห่งกาลก่อน (The Great Old one) ที่ออกมาหลอกหลอนจิตของตัวเอก แต่ไม่ออกมาเป็นกายเนื้อ

Edward Pierce มาถึงเกาะ Dark Water เป็นครั้งแรก

หมู่บ้านล่าวาฬเก่าแก่ที่มีบรรยากาศสยดสยอง

เนื้อเรื่องในเกม Call of Cthulhu นับว่ามีการนำส่วนประกอบเหล่านี้มานำเสนอได้อย่างน่าสนใจและใส่องค์ประกอบใหม่ๆลงไปทั้งวิธีการแผ่ขยายอิทธิพลของ Cthulhu และกลุ่มมาเฟียที่เพิ่งมามีอิทธิพลบนเกาะซึ่งกลุ่มมาเฟียนั้นไม่มีความยึดโยงกับประวัติศาสตร์ของเกาะจึงไม่ได้รับอิทธิพลจาก Cthulhu เหมือนชาวเกาะคนอื่นๆ ซึ่งสร้างบรรยากาศที่ทั้งขัดแย้งและรู้สึกมีหวังว่าอาจมีใครมาช่วยเราในการต่อต้านการกลับมาของ Cthulhu ร่วมกัน

กลุ่มมาเฟียที่เพิ่งมามีอิทธิพลบนเกาะได้ไม่นาน

แต่สุดท้ายแล้วเนื้อเรื่องก็ดำเนินไปตามขนบและโยนส่วนประกอบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย กลุ่มมาเฟียไม่ได้มีอิทธิพลต่อเนื้อเรื่องมากนัก, โรงพยาบาลที่ทำการทดลองแปลกๆก็ไม่มีความเชื่อมโยงที่ชัดเจนกับการกลับมาของ Cthulhu สุดท้ายแล้วก็เหมือนกับเป็นตัวเอกที่ตามรอยเบาะแสไปเรื่อยๆและจบลงที่พบกับลัทธิคลั่งที่กำลังทำพิธีเรียก Cthulhu กลับมา 

ส่วนเรื่องตัวเลือกของฉากจบ มันยากที่จะบอกว่าจุดจบที่ "เหมาะสม" ของนิยาย Lovecraft คืออะไร ไม่สามารถพูดว่าสิ่งนี้คือ Good End สิ่งนี้คือ Bad End แต่ที่แน่ๆเกมนี้ได้นำเสนอฉากจบอย่างที่นิยาย Lovecraft ควรจะเป็น

Summary

ฉากสุด Classic ใน Cthulhu Mythos ฉากทำพิธีเรียก Cthulhu

ในฐานะของเกมนับว่าแย่ ระบบต่างๆถูกใส่เข้ามาแต่ไม่ได้มีบทบาทอย่างเต็มที่ เอาระบบทั้งหมดออกไปแล้วทำเป็น Interactive Novel อย่างเกมของค่าย Telltale ยังจะดูดีกว่า ส่วนกราฟฟิคแม้จะดูเชยๆไปบ้างแต่โดยรวมก็ถือว่านำเสนอความหลอนและบรรยากาศไม่น่าไว้ใจออกมาได้ดี

ส่วนเนื้อเรื่องนั้นทำตามขนบเกินไป เริ่มมาเหมือนจะมีอะไรฉีกขนบไปจากเดิมแต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็ถูกเรียงเข้าขนบตั้งแต่การดำเนินเรื่อง, ส่วนประกอบ และฉากจบ เป็นเนื้อเรื่องรสชาติคุ้นเคยที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์แต่ก็น่าเบื่อ

หากจะเล่นก็คาดหวังเหมือนการอ่านนิยายหรือว่าเรื่องสั้นของ H.P. Lovecraft สักเรื่องก็พอ อย่าคาดหวังให้มันไปไกลกว่านั้นเพราะจะผิดหวังเสียเปล่า เหมือนที่เคยวิจารณ์ไว้ตอนรีวิวหนังสือ "เสียงเพรียกจากคธูลู" นั่นแหล่ะ ว่างาน Lovecraft นั้นล้มเหลวในแง่ของความเป็นนิยายแต่ประสบความสำเร็จในฐานะของการสร้างโลกและการเป็น Reference

เกมนี้ถือว่าล้มเหลวในการเป็นเกม แต่ประสบความสำเร็จในการฉายภาพบรรยากาศและโลกของ H.P. Lovecraft ออกมาให้เราได้สำรวจบางส่วนของมัน