Skip to main content

Featured

[Replay] [Play by Posts] 2400 Cosmic Highway : The Delivery EP 3

  โครงกระดูก Leviathan ที่ยังหลงเหลืออยู่ใน Leviathan Crossing Link to Replay Part 1 Link to Replay Part 2 Replay Part 3 ในขณะที่ Dutch กับ Guillermo กำลังคุยกันเรื่องมัมมี่ Franchetti ที่ทิ้งวิชาชีวะวิทยาไปตั้งแต่ 9 ขวบได้เตรียมการต่อ Monolith เข้ากับ AI จำลองของบีแบพแล้ว “ที่เหลือก็แค่ Launch แล้วอยากมาดูด้วยกันรึเปล่า?” Franchetti เรียกเพื่อนๆมาดูโชว์ DEUS EX MACHINA "นี่คงไม่ได้ต่อเข้ากับ AI ที่เป็น Copilot ของยานใช่ไหม? หวังว่าจะใช้ Server ส่วนตัวมาทดสอบนะ จะได้ปิดสวิตช์มันได้ถ้ามีอะไรผิดพลาด" "Fran มันไม่น่าโง่ขนาดนั้นมั้ง Doc" "ได้ยินนะเฟ้ย AI ยานก็ AI ยานไม่ยุ่งอยู่แล้ว นี่ของจำลองเหมือนเอาวัวที่เราดูดจาก E-69 ไปปล่อยที่ดาวเคราะห์ Rule-31 ไง เข้าใจคร่าวๆไหม?" Franchetti อธิบายพลางทำไม้ทำมือประกอบ "ถ้าคุณพร้อมก็เริ่มการทำงานของมันได้เลย ผมเองก็อยากจะเห็นเหมือนกัน" Guillermo ชูมือให้สัญญาณ Franchetti เริ่มทำการ Launch เชื่อม Monolith ที่ได้มาใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสงสัยว่าเจ้าสิ่งนี้จะแสดงอะไรออกมาให้เห็น ส่วน Dutch ยืนเคี้ยว Protei...

[Story] Fallout 4 Survival mode : เมื่อเกมสะท้อนบางตอนของชีวิต

Screenshot from Fallout 4

Introduction

ช่วงนี้ผมเพิ่งได้มีเวลาว่างกลับมาเล่นเกมอีกครั้งหลังจากซื้อ PS4 พร้อมเกมมากมายมาดองเอาไว้ โดยเกมที่ผมใช้เวลาด้วยมากที่สุดช่วงนี้ (เล่นจบไปตั้งสองรอบ) คือ Fallout 4 เกม RPG-Open world ในธีมโลกหลังสงครามนิวเคลียร์ที่ปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 2015 เป็นเกมที่ขึ้นชื่อได้ว่าใช้เวลาเล่นนานมากเพราะตัวเกมที่อุดมไปด้วย Side Quest ให้ทำและ Dungeons ให้สำรวจ รวมไปถึงระบบ Crafting System ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยได้สัมผัสมา พอเล่นไปสักพักผู้เล่นจะเริ่มลืมว่าเนื้อเรื่องหลักต้องทำอะไรเพราะมัวแต่เล่น Side Quest กับสำรวจดันเจี้ยนพลางเก็บไอเทมขยะมาอัพเกรดปืนและสร้าง Settlement

ในรอบแรกคือเล่นแต่ Side Quest กับสำรวจจนสำเหนียกได้ว่าควรเล่นเนื้อเรื่องหลักต่อได้แล้ว เลยเล่นเนื้อเรื่องหลักจนจบก่อนจะประสบภาวะสุญญากาศหลังเกมจบ เกมจบแล้ว...แล้วไงต่อวะ? พยายามเล่นกับระบบ Settlement สร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ตามที่คนนิยมสร้างกันแล้วอัพลง YouTube แต่เล่นไปได้สักพักก็เบื่อ เราจะสร้าง Settlement ไปทำไมนอกจากความสนุก "ความจำเป็นอยู่ที่ไหน"

"ความจำเป็นอยู่ที่ไหน" กลายเป็นคำถามหลักที่ทำให้ผมออกค้นหาความท้าทายใหม่ๆ จนได้มาพบกับ Survival mode จากข้อความใน Help menu ที่ขึ้นมาให้อ่านเล่นๆระหว่างรอโหลดเกม แถมขึ้นมาด้วยข้อความเชิญชวนเยี่ยงลุงแซมในโปสเตอร์หาทหารไปร่วมสงครามโลก "หากคุณต้องการความท้าทายใหม่ๆ ลองเล่น Survival mode สิ ในโหมดนี้คุณต้องกิน ต้องดื่มน้ำ ต้องนอน ไม่มี Fast travel และต้องเซฟด้วยการนอนเท่านั้น" และแน่นอนทันทีที่อ่านจบ ผมเริ่มเกมใหม่ใน Survival mode ทันทีเพราะรู้สึกว่ามันจะทำให้ระบบ Settlement ถูกนำมาใช้งานอย่างเต็มที่เป็นแน่

Game Start!

Survival Mode : What's it?

Survival mode เป็นระดับความยากสูงสุดของ Fallout 4 ไม่ใช่แค่ยากเพียงศัตรูที่ยิงแรงตบแรงและอึดบรรลัยเท่านั้น ตัวเกมยังเพิ่มระบบที่สร้างความลำบากให้ชีวิตและตัดระบบที่ทำให้การเล่นลื่นไหลและสะดวกสบายบางอย่างออกไปอีกด้วย ตัวอย่างเช่น
  • เพื่อให้ได้อารมณ์ของการเอาตัวรอดจริง เกมได้เพิ่มความจำเป็นที่ตัวละครจะต้อง กินอิ่ม ดื่มน้ำเพียงพอ และนอนหลับเต็มอิ่มบนเตียงสะอาดๆเข้าไป หากทำตามนี้ไม่ได้ ตัวเกมจะประเคนสถานะผิดปกติมากมายมาให้ทั้งหิวข้าว,หิวน้ำ,นอนไม่พอ,ป่วยแบบอ่อนแรงล้า,ป่วยติดเชื้อ,ป่วยติดพยาธิ ฯลฯ ดังนั้นปัจจัยสี่อย่าง น้ำ,อาหาร,ที่อยู่ และยารักษาโรค ต้องมีพร้อมเสมอ
  • เดิมทีเกมนี้จะสามารถเซฟตรงไหนก็ได้ ปกติก็จะเซฟก่อนเข้าดันเจี้ยนหรือหลังเคลียร์ส่วนยากๆเสร็จ แต่ระบบใหม่คือถ้าจะเซฟ เราต้อง "นอน" เท่านั้น แปลว่าถ้าไม่กลับบ้านนอนก็ต้องหาฟูกหาเตียงตามสถานที่ต่างๆเพื่อเซฟเกม คือนอกจากต้องเอาชีวิตรอดในดันเจี้ยนแล้วยังต้องเอาชีวิตรอดกลับไปที่จุดเซฟให้ได้ ไม่อย่างนั้น Progress ที่เล่นมาตลอดสองชั่วโมงอาจหายไปภายในพริบตาก็เป็นได้
  • แผนที่มันกว้าง Fast travel จึงสำคัญ แต่เพื่อความสมจริงใน Survival mode ทางผู้พัฒนาจึงนำระบบนี้ออกไป เรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของ Open world ชัดๆกับการที่ต้องเดินไปเดินมาในโลกอันกว้างใหญ่(บางทีก็เดินกันเกือบสิบนาที) เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังเป็นการเพิ่มโอกาสตายให้เราอีกด้วย ระหว่างเดินๆอยู่อาจโดนดักยิงหรือโดนหมีกลายพันธุ์วิ่งมาตบจนกลับจุดเซฟก็เป็นได้
และด้วยเรื่องการเซฟเกมและความต้องการปัจจัยสี่นี้เอง ระบบ Settlement จึงเลื่อนระดับตัวเองจาก "ทางเลือกในการเล่น" มาเป็น "ความจำเป็นในการเล่น" การสร้างที่อยู่อาศัยหมายถึงเราจะมีอาหาร มีน้ำสะอาด มีที่ซุกหัวนอน และมีจุดเซฟ ยิ่งเรามี Settlement เยอะและดีเท่าไหร่ การเอาตัวรอดให้ระดับความยากนี้ก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น

Settlement Building in Fallout 4

My Survival : ต้องรอด!

ครั้งแรกที่เล่น Survival mode เรียกได้ว่าเป็นความวายป่วงครั้งใหญ่ คือการเล่นรอบแรกก็ไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใจระบบเกมหรือสกิลที่จำเป็นมากเท่าไรนัก (ประมาณว่าอยากอัพอะไรก็อัพไป) พอเริ่มเล่นใหม่ก็เหมือนเดิม ไปอ่านจากในเน็ตว่าต้องการตัวละครที่อึดถึดทนเป็นพิเศษสำหรับความยากนี้ เราก็เริ่มเกมด้วยค่าสถานะเน้นถึกเข้าว่า ผลสรุปคือค่าสถานะไม่พอสำหรับสกิลโจมตี ช่วงเลเวลแรกๆจึงต้องอัพค่าสถานะเพิ่มแทนที่จะอัพสกิลที่มีประโยชน์ในการเล่นจนส่งผลให้ไม่สามารถเอาชนะศัตรูที่เลเวลสูงกว่าหรือเทียบเท่าได้ และค่าสถานะที่ช่วยเพิ่มความถึกนั้น ว่ากันตามตรงมันก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่

ส่วนทางด้านปัจจัยสี่ เรียกได้ว่าไม่ให้ความสนใจเลยด้วยซ้ำ คือพยายามหาดรอปเอาตามดันเจี้ยน ทั้งน้ำ อาหาร ส่วนที่นอนก็มีแค่ Settlement แรกตอนเริ่มเกมเท่านั้น สร้างใหม่น้อยมาก มุ่งมั่นกับการเคลียร์เควสท์อย่างเดียว ผลคือป่วยแล้วป่วยอีกจนยารักษาโรคหมด (Antibiotics หายากโคตรๆในเกม) และมักเสียเวลาเล่นโดยไม่มีความคืบหน้าใดๆเพราะหาจุดเซฟไม่เจอ

In the Wasteland

โคตรเละเทะ ขาดทั้งปัจจัยสี่และทักษะจำเป็น ค่าสถานะเริ่มต้นอาจผิดไปบ้างแต่ก็ยังพอแก้ไขได้ แต่การไม่ยอมอัพสกิลที่จำเป็นมาตั้งแต่เลเวลน้อยๆนี่นับว่าเกินเยียวยา สุดท้ายก็เล่นต่อไม่ได้เพราะสู้กับศัตรูที่เลเวลมากขึ้นตามเลเวลของเราไม่ไหว และด้วยความที่ว่าเล่นมาได้ไม่ไกลจากจุดเริ่มต้นนักเลยตัดสินใจ "เริ่มใหม่อีกครั้ง" พร้อมกับการหาข้อมูลที่จำเป็นต่อการเอาตัวรอดใน Survival mode นี้ (หาไม่ยากนักเพราะเกมออกมาจะสองปีแล้ว)

ส่วนใหญ่ก็เป็นข้อมูลที่ได้รับมาตั้งแต่ตอนต้น เรื่องความบัดซบของระดับความยากนี้และอื่นๆ จนมาเจอกับความคิดเห็นหนึ่งในบอร์ดต่างประเทศถึงจะรู้สึกบรรลุอะไรสักอย่าง (จำไม่ได้ว่า Reddit หรือ GameFAQs) เขาบอกประมาณว่าเล่นโหมดนี้ต้องใจเย็นโคตรๆโดยเฉพาะตอนเริ่มเกม ต้องค่อยๆเล่น ค่อยๆอัพเกรด ระหว่างลุยดันเจี้ยนก็เสียเวลากลับไปเซฟกลับไปเติมเสบียงบ้างก็ได้ Progress จะได้ไม่หายไปไหน ซึ่งผมสรุปความคิดเห็นนี้ออกมาเป็นประโยคที่ว่า "จงใช้เวลาให้มากขึ้นเพื่อเสียเวลาน้อยลง" ดังนั้นผมจึงเริ่มเกมรอบใหม่ด้วยการวางแผนที่จริงจังที่สุดเท่าที่เคยทำมาในชีวิตการเล่นเกม

อย่างแรกเลยคือไปหาโหลดตารางทักษะ (ในเกมเรียกว่า Perks) มานั่งดูแล้วเริ่มเลือกเลยว่าทักษะไหนมันจำเป็นบ้าง แล้วก็ตั้งค่าสถานะตอนเริ่มเพื่อให้สามารถอัพทักษะนั้นให้ได้ไวที่สุด อย่างที่สองคือเปิดแผนที่เกมเพื่อดูตำแหน่ง Settlement ในเกมว่ามีกระจายอยู่ตามจุดไหนบ้าง พอเริ่มเกม รับเควสท์ เราก็ไปสร้าง Settlement ใกล้ๆกับจุดที่จะไปทำเควสท์นั่นแหล่ะ

Settlements in Fallout 4 : Map from http://fallout.wikia.com/wiki/Fallout_4_resources#Resources


ช่วงแรกๆอาจทำเควสท์ไม่มาก เน้นไปที่การสร้าง Settlement เสียเยอะ คิดในใจแค่ว่าการเล่นรอบนี้ต้องกินอิ่มนอนหลับและสุขภาพแข็งแรง แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากความคิดนี้คือตัวละครเลเวลอัพอย่างต่อเนื่องและไม่ค่อยเสีย Progress ในการเล่น (จุดเซฟเยอะ ทรัพยากรเพียงพอ) จนสุดท้ายระดับความยากที่ทรมานจิตใจก็กลับกลายเป็นเพียงระดับความยากที่สร้างความรำคาญเพราะ Fast Travel ไม่ได้เท่านั้น
"และแน่นอนว่ามัวเล่นแต่เควสท์ย่อยกับสำรวจเช่นเคยจนสำเหนียกได้ว่าควรไปเล่นเนื้อเรื่องหลักได้แล้วจึงไปเล่นต่อจนจบ"

คุยสรุปกันตอนท้าย

หลังจากเล่นจบแล้วคงต้องบอกว่ามันไม่ใช่โหมดที่เหมาะกับทุกรูปแบบการเล่น (เว้นแต่จะเก็บเลเวลจนสูงพอจนแต้มอัพทักษะเหลือกินเหลือใช้ เอาไปอัพอะไรก็ได้) คือมันต้องจัดลำดับจริงๆว่าทักษะไหนจำเป็น ทักษะไหนไม่จำเป็น สุดท้ายแล้วมันเลยลดรูปแบบการเล่นลงมาเหลืออยู่ไม่กี่รูปแบบ ดังนั้นถ้าอยากลองเล่นรูปแบบแปลกๆใหม่ๆก็คงจะแนะนำให้เล่นแบบธรรมดามากกว่า

Screenshot from my latest gameplay

ส่วนถามว่าได้อะไรบ้างจากการเล่น (มันต้องได้สิ ไม่งั้นจะมานั่งเขียนทำไม) เรื่องแรกคงเป็นเรื่องคุณค่าของปัจจัยสี่ล่ะมั้ง คนเรามันต้องกินให้อิ่ม,ดื่มน้ำให้เพียงพอและนอนหลับให้เต็มตื่นเป็นพื้นฐานก่อนจะไปทำอะไรๆต่อไป คือเล่นจบแล้วรู้สึกเห็นคุณค่าของกับข้าวและน้ำดื่มขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนเรื่องที่สองคงเป็นเรื่องการจัดลำดับความสำคัญ ว่าอะไรควรทำก่อนทำหลังโดยเฉพาะลำดับการอัพทักษะ (Perks)

ขยายความเรื่องลำดับความสำคัญของทักษะเสียหน่อย ขอสมมติว่าเลเวลมันคืออายุของเราในโลกจริงๆ และเราก็ต้องเจอสิ่งยากๆเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นแบบเดียวกับการเจอศัตรูที่โหดขึ้นเมื่อเลเวลสูงขึ้น ถ้าสมมติแบบนี้เรื่องของ "การลำดับความสำคัญของทักษะ" มันจะดูมีความสำคัญขึ้นมาทันที คือถ้าหากในช่วงอายุหนึ่งเราไม่มีทักษะที่จำเป็นบางอย่างจะทำให้ชีวิตไปต่อลำบากเลยนะ ยกตัวอย่างเช่นช่วงที่เรียนจบปริญญาตรีมาใหม่ๆ ถ้าหากทักษะภาษาอังกฤษไม่ดีก็จะหมดโอกาสทำงานหลายๆอย่างไปเลย ซึ่งมันก็จะส่งผลให้พลาดโอกาสต่อไป ต่อไป และต่อไปเป็นลูกโซ่ และพอมาถึงจุดๆหนึ่งที่อายุเริ่มเยอะมันจะกลายเป็น Point of no return ที่เราจะไปต่อในสายอาชีพของเราไม่ได้แล้ว ดังนั้นในวัยเรียนที่เราสามารถลองทำอะไรหลายๆอย่างได้ประดุจอยู่ในโหมด Tutorial ก็อยากให้ฉุกคิดกันสักนิดว่าทักษะที่จำเป็นต้องมีคืออะไรและพัฒนาทักษะนั้นให้ใช้งานได้จริงก่อนที่ Tutorial จะจบลง และพึงระลึกไว้เสมอว่า
"ชีวิตของเราไม่สามารถปรับลดระดับความยากหรือเริ่มใหม่ได้อย่างในเกม"

Comments