Skip to main content

Featured

[Replay] [Play by Posts] 2400 Cosmic Highway : The Delivery EP 3

  โครงกระดูก Leviathan ที่ยังหลงเหลืออยู่ใน Leviathan Crossing Link to Replay Part 1 Link to Replay Part 2 Replay Part 3 ในขณะที่ Dutch กับ Guillermo กำลังคุยกันเรื่องมัมมี่ Franchetti ที่ทิ้งวิชาชีวะวิทยาไปตั้งแต่ 9 ขวบได้เตรียมการต่อ Monolith เข้ากับ AI จำลองของบีแบพแล้ว “ที่เหลือก็แค่ Launch แล้วอยากมาดูด้วยกันรึเปล่า?” Franchetti เรียกเพื่อนๆมาดูโชว์ DEUS EX MACHINA "นี่คงไม่ได้ต่อเข้ากับ AI ที่เป็น Copilot ของยานใช่ไหม? หวังว่าจะใช้ Server ส่วนตัวมาทดสอบนะ จะได้ปิดสวิตช์มันได้ถ้ามีอะไรผิดพลาด" "Fran มันไม่น่าโง่ขนาดนั้นมั้ง Doc" "ได้ยินนะเฟ้ย AI ยานก็ AI ยานไม่ยุ่งอยู่แล้ว นี่ของจำลองเหมือนเอาวัวที่เราดูดจาก E-69 ไปปล่อยที่ดาวเคราะห์ Rule-31 ไง เข้าใจคร่าวๆไหม?" Franchetti อธิบายพลางทำไม้ทำมือประกอบ "ถ้าคุณพร้อมก็เริ่มการทำงานของมันได้เลย ผมเองก็อยากจะเห็นเหมือนกัน" Guillermo ชูมือให้สัญญาณ Franchetti เริ่มทำการ Launch เชื่อม Monolith ที่ได้มาใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสงสัยว่าเจ้าสิ่งนี้จะแสดงอะไรออกมาให้เห็น ส่วน Dutch ยืนเคี้ยว Protei...

Ready Player Two : Ernest Cline [SPOILER ALERT]

Ready Player Two : ภาคต่อที่ขยายสเกลของโลกนิยายไปอีกขั้น แต่ดูเหมือนจะมีปัญหากับการเล่าเรื่อง


ภาพปก Ready Player Two จาก : https://www.amazon.com/Ready-Player-Two-Ernest-Cline/dp/1524761338


เรื่องย่อ 

Ready Player Two เป็นภาคต่อของ Ready Player One หลังจากที่ เวด วัตส์ และพวกเอาชนะการแข่งขันล่าไข่อีสเตอร์ของฮัลลิเดย์ในภาคที่แล้วและได้กลายเป็นเจ้าของ บริษัทเกรกาเรียสซิมูเลเตอร์ซิสเต็ม - จีเอสเอส ที่เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเกมออนไลน์และโลกเสมือนจริงอย่าง โอเอซิส เวดได้ค้นพบเทคโนโลยีล้ำยุคที่เป็นมรดกอีกชิ้นของฮัลลิเดย์ (ผู้สร้างโอเอซิส) ที่มีชื่อเรียกว่า OASIS Neural Interface - ONI ที่จะยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมในโลกเสมือนจริงไปอีกขั้นโดยการย้ายจิตสำนึกของผู้เล่นเข้าไปในโอเอซิสและทิ้งร่างกายเอาไว้ในสภาพหลับลึก โดยคนที่ใช้ ONI ในการเข้าเกมจะรับรู้ทุกสิ่งในเกมผ่านประสาทสัมผัสได้เหมือนโลกจริง อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะปล่อยเทคโนโลยีนี้ออกสู่ตลาดหรือไม่ก็ได้สร้างความแตกแยกในกลุ่มของเวด โดย ซาแมนธา แฟนสาวของเวดเป็นเพียงคนเดียวที่คัดค้านการตัดสินใจนี้จนทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเวดต้องยุติลง

แม้เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้คนสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่อาจไม่มีโอกาสได้สัมผัสในชีวิตจริงและช่วยให้การเล่นเกมรื่นรมย์ขึ้น แต่มันก็สร้างปัญหาตามมาไม่น้อย เช่นการฆาตกรรมผู้ใช้ ONI เพื่อชิงอวัยวะในระหว่างที่ร่างกายอยู่ในสภาพหลับลึก, การใช้งาน ONI เกินขีดจำกัดจนสมองถูกทำลาย และการเสพติดโลกเสมือนจริงที่หนักข้อยิ่งกว่าเดิม

ถึงจะมีความเสี่ยงแต่เทคโนโลยี ONI นั้นก็ได้รับความนิยมมากจนจีเอสเอสสามารถทำกำไรได้ถล่มทลาย และเมื่อมีผู้ใช้ ONI ครบ 7,777,777 คน ภารกิจใหม่จากฮัลลิเดย์ผู้ล่วงลับในการหาไอเทมลึกลับที่ชื่อว่า “ชิ้นส่วนทั้งเจ็ดแห่งวิญญาณไซเรน” ที่เต็มไปด้วยปริศนาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งในผู้ร่วมสร้างโอเอซิสที่เป็นรักแรกและรักข้างเดียวของฮัลลิเดย์อย่าง คีร่า อันเดอร์วู้ด ก็ปรากฏขึ้นพร้อมๆกับศัตรูใหม่ที่ไม่มีใครคาดคิด

วิจารณ์

โดยภาพรวมและโดยคอนเซปท์ Ready Player Two เป็นภาคต่อที่พยายามจะยกระดับสเกลของเรื่องให้ไหญ่และใหม่ขึ้น ใส่ประเด็นเพิ่มเติมต่างๆเข้ามานอกเหนือไปจากวิดิโอเกมเสมือนจริงทั้งในแง่ของวิทยาศาสตร์ - เทคโนโลยี เช่น การเปลี่ยนจิตสำนึกเป็นข้อมูล, ปัญหาอาชญากรรมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี และยังพยายามขายคอนเซปท์เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศที่กำลังเป็นกระแสของโลกด้วยการแนะนำตัวละครใหม่ที่เป็นผู้หญิงข้ามเพศอย่าง โลเอินกริน ที่เป็นผู้ตามหาชิ้นส่วนวิญญาณชิ้นแรกพบ

แต่อย่างไรก็ตาม สเกลที่ใหญ่ขึ้นกับประเด็นที่หลากหลายนั้นกลับไม่สามารถถูกนำมาเล่าได้อย่างลงตัว การดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของเวดเพียงคนเดียวทำให้เรารับรู้ความเป็นไปทั้งในโลกจริงและในโอเอซิสในมุมมองที่จำกัดและยังทำให้บทไปกระจุกอยู่ที่เวดจนตัวละครอื่นจืดจางและไร้มิติไป โดยเฉพาะตัวละครใหม่อย่าง โลเอินกริน ที่แม้จะเปิดตัวมาเพื่อพูดถึงประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศแต่ก็ถูกตัดบทไปอย่างน่าเกลียด คล้ายกับ ฟินน์ และ โรส ใน สตาร์วอร์สไตรภาคล่าสุด ที่ถูกใส่เข้ามาเพื่อขายความหลากหลายทางเชื้อชาติแต่มีบทไม่โดดเด่น

ส่วนภารกิจการหาชิ้นส่วนวิญญาณที่ต้องอาศัยความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมป๊อปต่างๆก็ไม่สนุกเท่าภาคแรก ข้อแรกคือวัฒนธรรมป๊อปที่ถูกอ้างอิงถึงนั้นค่อนข้างเฉพาะทางและโฟกัสไปที่ยุค 80 เป็นหลัก ทำให้คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับวัฒนธรรมเหล่านั้นจะไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมโดยสิ้นเชิง ข้อสองคือวิธีการทำภารกิจที่น่าเบื่อและมีรูปแบบซ้ำๆ ไขปริศนา - วาร์ปมาที่ดาวที่ต้องการ - คนในกลุ่มรู้ทันทีว่าจะหาชิ้นส่วนวิญญาณจากไหนพร้อมอัดข้อมูลใส่แบบมืดฟ้ามัวดิน - นำเวดไปตามหาชิ้นส่วนวิญญาณแบบรีบๆ และการเขียนก็เน้นบรรยายฉากจนทำให้การดำเนินเรื่องช้าจนน่ารำคาญ

โดยสรุป เรารู้สึกว่าคนเขียนพยายามจะเปลี่ยนจากการเขียนนิยายแนวไซไฟเนิร์ดติดเกมอ่านสนุกไปเป็นนิยายที่เน้นประเด็นจริงจังมากขึ้นเหมือนกับ Black mirror ทำให้บรรยากาศเก่าๆสมัย Ready Player One หายไปจนหมด ในหลายๆส่วนก็ดูฝืนๆเหมือนผู้เขียนเองก็ไม่ถนัดในการเล่าประเด็นเหล่านี้ แม้จะทำรีเสิร์ชมาเยอะแต่ไม่สามารถนำมาเรียบเรียงได้ ทำให้กลายเป็นนวนิยายที่ขาดๆเกินๆในทุกด้าน

และในช่วงที่เราเขียนบทความนี้ก็มีข่าวว่าบทภาพยนตร์ Ready Player Two นั้นกำลังอยู่ในการพัฒนา เราเชื่อว่าเมื่อหนังออกมาต้องต่างจากในนิยายค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องการดำเนินเรื่องและวัฒนธรรมป๊อปที่จะนำมาใช้ในภารกิจตามหาชิ้นส่วนวิญญาณ ซึ่งเราก็ต้องรอดูว่าบทหนังจะสามารถปรับปรุงให้เรื่องราวมันมีความกลมกล่อมและเข้าถึงคนหมู่มากได้ขนาดไหน ถ้าไปในทิศทางเดียวกันกับหนังภาคแรกก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าติดตาม

Comments