Skip to main content

Featured

[Wrap Up + Replay] 2400 Inner System Blue : Missing Cyber Doc

หน้าปกเกม 2400 : Inner System Blues Introduction เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้วหลังจากที่เราห่างหายการรัน TRPG ไปนานราวๆ 3 เดือน เราคิดว่าจะลองรันแบบ Play by Post หรือการ TRPG ผ่านทางการพิมพ์หรือการตั้งกระทู้ดู น่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์หลังจากที่สถานการณ์โควิดดีขึ้นจนมีเวลาว่างไม่มากเท่าแต่ก่อน หลังจากทำการค้นข้อมูลสักพักจากเว็บบอร์ดต่างประเทศ รวมทั้งคลิป Youtube ที่แชร์ประสบการณ์การ Play by Post ทั้งที่ประสบความสำเร็จและที่ล้มเหลว เราก็ได้เลือกระบบเกมและร่างพล็อตของเกมขึ้นมา หลังจากนั้นจึงรับสมัครผู้เล่นใน Discord ของกลุ่ม Onion Knight Table  และเล่นกันในกลุ่ม เริ่มเล่นตั้งแต่เดือนมิถุนายน ลากยาวมาจนจบในช่วงเดือนธันวาคม รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน

[REVIEW] MARVEL LEGENDS 2020 : WAR MACHINE

Model : War Machine (Classic)
Toy line : Marvel Legends
Manufacturer : Hasbro
Year : 2020

Marvel Legends 2020 (Deluxe Series) : War Machine

Introduction

ในช่วงหลังเราจะเห็น Hasbro เข็นตัวละครจากคอมิคทั้งที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยออกมาให้ได้ยลโฉมกันค่อนข้างมากโดยเฉพาะไลน์ของ X-Men ที่ออกมาเหมือนเก็บกดหลังจากที่ไม่ได้ออกมานาน (น่าจะเพราะเรื่องดีล X-Men ระหว่าง Disney - Fox ก่อนหน้านี้ด้วย) ซึ่งก็มาชดเชยกับกระแสหนัง Marvel ที่แผ่วลงไปในช่วงนี้พอดี ส่วนไลน์ Avengers หลังจากออกมาครบทีมในชุดครบรอบ 80 ปี Marvel Comic ก็ไม่ได้เห็นออกมาเพิ่มเติมมากนัก ที่เห็นหลุดมาก็คือ War Machine ตัวนี้ที่ออกมาเป็น "Deluxe Target Exclusive Comic" ซึ่งมีความยิ่งใหญ่สมชื่อ เป็นดีไซน์แบบดั้งเดิมพร้อมของแถมมากมาย

นอกจากนี้ Comic War Machine ก็ไม่ได้ถูกผลิตมานานมากแล้วนับตั้งแต่สมัย Toybiz เราจะเห็นแค่ตัว MCU War Machine เกือบทุกภาค (ยกเว้นจาก Iron Man 2) ที่ถูกผลิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า การกลับมาของดีไซน์ต้นฉบับ Comic ในครั้งนี้จึงทำให้รู้สึกตื่นเต้นและพรีออเดอร์ไปโดยแทบไม่ต้องคิดเลย (แม้ว่าจะดองไว้ไม่ยอมแกะมารีวิวเสียทีก็ตาม) 

Toybiz War Machine (from : http://marvellegends.net/Figures/ML09/WarMachine_0.htm)

Toybiz War Machine (from : http://marvellegends.net/Figures/ML09/WarMachine_0.htm)



War Machine : James Rhodes

War Machine #1 (from : https://marvel.fandom.com/wiki/War_Machine_Classic_TPB_Vol_1_1)


เจอ Tony Stark เป็นครั้งแรก

ในคอมิค James Rhodes เป็นนักบินของนาวิกโยธินสหรัฐ เขาได้พบกับ Tony Stark เป็นครั้งแรกที่เวียดนามในตอนที่เขากำลังพยายามซ่อมเฮลิคอปเตอร์ที่ถูกจรวดของฝ่ายศัตรูยิงตกระหว่างปฏิบัติภารกิจ (เรื่องการเจอกันในเวียดนามอ้างอิงจากหน้าคอมิคและประวัติการคิดค้นชุด Iron man MK 1 อย่างไรก็ตามใน Marvel Wikia บอกว่าเป็นอัฟกานิสถาน คาดว่าเป็นการสับสนกับโครงเรื่องของ Iron Man MCU)

ในตอนนั้น Tony Stark ในชุดเกราะ Iron Man MK 1 ที่เพิ่งสร้างเสร็จกำลังหลบหนีจากฐานศัตรูเพื่อไปยังเขตแดนในการคุ้มกันของสหรัฐ (ซึ่งกำลังถูกโจมตีโดยศัตรู) ได้ผ่านมาเจอเขาเข้าพอดี ซึ่ง Rhodes ได้ให้ Tony ใช้แบตเตอรี่ของเฮลิคอปเตอร์ในการชาร์จพลังงานให้ชุดเกราะ Iron Man หลังจากที่ Tony ได้พิสูจน์ว่าเป็นพวกเดียวกันโดยการจัดการศัตรูระลอกใหม่ที่เข้าโจมตีพวกเขา

ทั้งสองบุกป่าฝ่าดงจนไปเจอฐานยิงจรวดของศัตรู ทั้งสองได้ช่วยกันทำลายฐานทัพนั้นและขโมยเฮลิคอปเตอร์หลบหนีไปยังฐานทัพของสหรัฐได้สำเร็จ โดยก่อนที่ Tony จะกลับไปยังอเมริกา เขาได้ชักชวน Rhodes ให้มาเป็นนักบินให้เขาหลังจากสิ้นสุดหน้าที่การเป็นทหาร ซึ่ง Rhodes ได้ปฏิเสธไปในตอนแรก

First met with Tony in Comic (from : https://scans-daily.dreamwidth.org/6435763.html?thread=177594547)


ทำงานกับ Stark Industry และรับหน้าที่ Iron man

ภายหลังจากสะสางงานในกองทัพ Rhodes ได้ตอบตกลงมาเป็นนักบินส่วนตัวและหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมการบินให้กับ Tony Stark และร่วมสนับสนุน Iron Man ในการต่อสู้ต่างๆมากมาย

ต่อมาเมื่อ Tony Stark ประสบปัญหาชีวิตหนักหน่วง บริษัทของเขาถูก Obadiah Stane ยึดและชุดเกราะ Iron Man ที่เขาสร้างถูกทำลายไปเกือบหมด เขาหันไปพึ่งเหล้าจนป่วยเป็นพิษสุราเรื้อรัง ซึ่งในช่วงนี้ Rhodes จำเป็นต้องสวมเกราะ Iron Man ที่เหลืออยู่ของ Tony เพื่อรับหน้าที่ Iron Man แทนชั่วคราว 

อย่างไรก็ตามการรับหน้าที่ Iron Man นี้ได้ส่งผลข้างเคียงกับ Rhodes ในหลายด้าน ทั้งอาการปวดหัวรุนแรงเนื่องจากชุดเกราะไม่ได้ถูกปรับให้เข้ากับคลื่นสมองของเขา ทำให้เขามีบุคลิกที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมจนเกือบทำอันตรายแก่คนบริสุทธิ์ระหว่างที่เขาสวมเกราะอยู่ซึ่งทำให้เขารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ซ้ำยังพบกับประสบการณ์เฉียดตายจากการใช้เกราะ Iron Man จนทำให้เข้ามีอาการ PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง) และไม่สามารถกลับมาใส่ชุด Iron Man ได้อีก ยังดีที่ในช่วงนั้น Tony Stark ได้ฟื้นฟูทั้งกิจการและอาการป่วยของเขาจนสามารถกลับมาเป็น Iron Man ได้แล้ว

Comic cover : Iron man #170 (from : https://marvel.fandom.com/wiki/Iron_Man_Vol_1_170)


War Machine

หลายปีถัดมา Tony Stark ได้รับบาดเจ็บปางตายจนต้องจำศีลในเครื่องแช่แข็ง แต่เขาได้ประกาศต่อสาธารณะชน (รวมทั้งตัว Rhodes ด้วย) ว่าเขาได้เสียชีวิตลงแล้ว และให้ Rhodes ขึ้นเป็น CEO ของ Stark Industry แทน นอกจากนี้ Tony ยังได้ทิ้งความต้องการสุดท้ายก่อนตายเอาไว้ข้อหนึ่ง คือให้ Rhodes รับหน้าที่ Iron Man ต่อโดยใช้ชุดเกราะล่าสุดที่เขาเพิ่งสร้างเสร็จ Iron Man Armor Model 11 หรือ War Machine 

ต่อมาภายหลังเมื่อ Rhodes ได้รู้ความจริงว่า Tony Stark ยังไม่ตาย เขาโกรธมากจนเลิกทำงานกับ Tony และลุยเดี่ยวในชื่อของ War Machine อยู่นาน ต่อมาทั้งสองได้กลับมารื้อฟื้นมิตรภาพแต่เก่าก่อนและร่วมกันรับมือกับทหารรับจ้างผู้ถือครองชุด War Machine Model 2 ในครอบครอง

First time War Machine : Iron man #284 (from : https://marvel.fandom.com/wiki/Iron_Man_Vol_1_284

Reviews

Marvel Legends War Machine 2020 ตัวนี้ใช้ต้นแบบมาจากเกราะ War Machine ที่สวมใส่โดย Rhodes เป็นครั้งแรก ซึ่งมีความแตกต่างจะเวอร์ชันปรากฏตัวครั้งแรกที่สวมใส่โดย Tony Stark โดยแบบของ Rhodes จะมีเตาปฏิกรณ์ Ark ติดตั้งมาด้วย

และเนื่องจากเป็น Deluxe Series ของแถมจึงจัดเต็มมาก เราจะเห็น Effect parts ของปืนทั้งสามแบบของ War Machine, ไอพ่นสองอัน และหัว Rhodes มาให้เปลี่ยน

Tony Stark's (from : https://marvel.fandom.com/wiki/Iron_Man_Vol_1_282)

Rhodes's (from : https://marvel.fandom.com/wiki/Iron_Man_Vol_1_286)


Box details : Front

Box details : Rear

Box Art

War Machine Logo


Details

ตัวฟิกเกอร์นั้นทำออกมาใน scale เดียวกับตัว Marvel Legends 80th anniversary : Iron Man ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งขนาดตัวจะใหญ่กว่า Comics Iron Man ตัวอื่นๆที่ Hasbro เคยทำ และเท่าที่ตรวจสอบดูพบว่ามีเพียงต้นแขนต้นขาเท่านั้นที่ใช้แบบเดียวกับ Iron Man 80th ส่วนชิ้นส่วนที่เหลือเป็นของใหม่ทั้งหมด

ส่วนเกราะนั้นใส่รายละเอียดต่างๆมาเยอะทั้งลวดลายและลูกเล่น โดยเฉพาะในส่วนของฐานปืนที่ติดอยู่ที่บ่านั้นมีลูกเล่นสามารถเลื่อนไปมาในรางเลื่อนได้! ถ้าไม่ได้ใช้ปืนก็เลื่อนเก็บไปไว้ด้านหลังได้เลย ไม่เกะกะเวลาถ่ายรูป เป็นลูกเล่นที่โคตรว้าวเลย ไม่คิดว่า Marvel Legends จะทำละเอียดขนาดนี้ และที่สำคัญคือเกราะหัวไหล่นั้นสามารถขยับตามการหมุนของแขนได้ด้วย

ส่วนปืนติดบ่ามีสองแบบคือ Gatling Gun และ Rocket Launcher ซึ่งสามาถถอดออกได้ รายละเอียดของอาวุธก็พอใช้ได้ ติดที่ไม่ได้ลงสีมาเลยและงานหล่อก็ยังไม่ค่อยดีนัก เพราะยังเห็นรอยขรุขระบนผิวพลาสติกชัดเจน ถ้าเกิดลงสีมาด้วยจะดีกว่านี้มาก

Front details

Rear details

รายละเอียดชุดเกราะทำออกมาละเอียดมาก

ลูกเล่นการขยับปืนติดบ่า สามารถเลื่อนขึ้นลงได้

 Gatling Gun

Rocket Launcher


ในส่วนของ Effect parts ที่แถมมานั้นถ้าจะบอกว่าไม่ตรงปกก็คงไม่ผิดนัก เพราะจากภาพโปรโมทและ Art Box เราจะเห็นพาร์ทไฟต่างๆเป็นสีส้มเข้มๆใสๆ แต่งานจริงจะเป็นส้มคนละโทนและไม่ใสเท่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่สวยนะ แค่ไม่ตรงกับภาพโปรโมทเท่านั้น

เอฟเฟคท์จรวดทำส่วนควันออกมาสวยดี แต่ตัวจรวดที่เป็นสีแดงนั้นดูเหมือนจรวดของเล่นไปหน่อย แถมขนาดจรวดก็ใหญ่กว่ารูจรวดตั้งเยอะ (แต่ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกเพราะพอใส่เอฟเฟคท์ลงไปก็ไม่เห็นรูแล้ว) ส่วนวิธีใส่ก็สวมครอบปากกระบอกไปเลย

Rocket effect

ติดตั้งโดยการครอบปากกระบอกเลย



ส่วนเอฟเฟคท์ปืน Gatling ก็เป็นการสวมครอบลงไปแบบเดียวกับเอฟเฟคท์จรวด ติดแล้วมั่นคงดี หลังติดเอฟเฟคท์จะดูแปลกๆหน่อยเพราะมองบางมุมจะคล้ายเอฟเฟคท์ยิงปืนใหญ่มากกว่ายิงปืนกล

Gatling effect ติดโดยการครอบปากกระบอกปืน


ส่วนปืนที่มือมีเอฟเฟคท์มาให้ถึง 3 แบบ อย่างแรกคือเอฟเฟคท์ไฟปืนแบบยิงกวาด ใส่โดยการสวมครอบปากกระบอกเช่นเดียวกับเอฟเฟคท์จรวดและปืนกล  สามารถใส่สลับด้านกันได้ 

ไฟปืนอีกแบบสำหรับติดแขนขวาจะเป็นการเสียบเอฟเฟคท์เข้าไปในรูกระบอกปืนแต่ต้องดูดีๆเพราะตัวฐานไฟจะมีร่องที่ประกบกันได้พอดีอยู่ ถ้าร่องไม่ประกบกันจะใส่ไม่เข้า ส่วนควันปืนเป็นแบบเสียบเข้าไปในรูเหมือนกัน

effect ยิงกราด ดูการ์ตูนหน่อยๆ

สลับด้านยิงได้

ควันปืนทำออกมาสวยอยู่นะ

ต้องใส่ effect ให้ลงล็อค ไม่งั้นใส่คู่กันไม่ได้

เอฟเฟคท์อีกอย่างคือไอพ่น ซึ่งเป็นไอพ่นขนาดใหญ่มากและสามารถนำไปต่อกับเอฟเฟคท์ควันฟุ้งๆเพื่อเป็นฐานได้ คือมันก็สวยดีนะแต่ว่าใช้ค่อนข้างยากเพราะเราต้องจัดตัวฟิกเกอร์ให้ทรงตัวอยู่ให้ได้บนฐานไอพ่นสองอันที่แยกกัน และด้วยความที่ไอพ่นมีขนาดใหญ่แต่ว่าเดือยที่ใช้เป็นขนาดปกติทำให้การยืนบนฐานไอพ่นนั้นไม่ค่อยมั่นคงเท่าไรนัก เวลาจัดท่าทางต้องให้ตัวฟิกเกอร์โน้มมาข้างหน้าหน่อยๆ

เอฟเฟคท์ไอพ่นแยกส่วนได้

ทรงตัวค่อนข้างลำบากประมาณหนึ่ง

ส่วนหัว Rhodes ที่ให้มานั้นก็แม้จะเป็นหัวใหม่ที่หน้าตาดุดันและทรงผมค่อนข้างทันสมัย แต่มาตรฐานการลงสีก็ยังเป็นของ Marvel Legends ที่ไม่ค่อยเนี้ยบแต่ก็ไม่ถึงกับรับไม่ได้ 

อีกอย่างหนึ่งที่น่าพูดถึงคือข้อต่อคอใหม่ที่เป็นแบบ Double Ball joint ไม่ใช่แบบ Ball joint + Hinge ตามปกติ ข้อดีคือการเคลื่อนไหวค่อนข้างอิสระกว่าเดิม แต่ข้อเสียคือเงยหน้าและก้มหน้าได้น้อยลง

หัว Rhodes ปั้นออกมาดี แต่ลงสีตาไม่เนี้ยบเท่าไหร่

ทรงผมทันสมัยมาก

ข้อต่อคอแบบใหม่

Articulations

โดยรวมจุดขยับและขอบเขตการขยับของ War Machine ตัวนี้ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก เราสรุปจุดขยับและขอบเขตการขยับมาแล้วตาม list ด้านล่างและรูปถ่าย โดยส่วนตัวคิดว่าหากเพิ่ม Swivel joint ที่ถุงมือและหน้าแข้งได้จะทำให้ขยับดูเป็นธรรมชาติกว่านี้
  • ส่วนหัว : เป็น Double ball joint ทำให้มีแกนการเคลื่อนไหวที่อิสระมากขึ้นแต่ทำให้ก้มหน้าเงยหน้าได้น้อยลง, หัวสามารถเอียงซ้ายเอียงขวาได้มากขึ้นและหมุนได้ 360 องศาเหมือนเดิม
  • ส่วนลำตัว : มี Abs-crunch ที่ก้มและเงยได้มากประมาณหนึ่ง, ส่วนเอวเป็น Swivel joint หุมนได้รอบ
  • ส่วนแขน : หมุนหน้าหลังได้ 360 องศาโดยมีเกราะไหล่หมุนตาม แต่แขนอ้าออกมาได้ไม่มากเท่าไหร่เพราะติดเกราะไหล่, ข้อศอกเป็น double joints พับได้เกือบสุด, ส่วนข้อมือเป็น Hinge + Swivel หมุนได้ พับงอได้
  • ส่วนขา : อ้าและเตะมาข้างหน้าได้ค่อนข้างเยอะแต่ก็ไม่เยอะพอ ทำให้จัดท่า Superhero landing ลำบาก, ขาหนีบเป็น Ball joint ต้นขามี Swivel joint หมุนได้รอบแต่ค่อนข้างฝืด, หัวเข่าเป็น double joints , ส่วนข้อเท้าเป็น Hinge (ส่วนต่อกับแข้ง) + Swivel(ส่วนต่อกับเท้า) สามารถพับงอและเอียงซ้ายขวาได้
เป็นฟิกเกอร์ที่มีจุดขยับดีแต่ไม่ใช่ฟิกเกอร์ที่เน้นจุดขยับ แต่ถ้ามองจากขนาดตัวและลักษณะของตัวฟิกเกอร์ จุดขยับที่มีก็นับว่าเพียงพอแล้ว ส่วนชิ้นส่วนที่ขัดการขยับมีเพียงเกราะไหล่ที่อ้าไม่ได้เพียงอย่างเดียวแต่ก็ไม่ได้จำกัดการเคลื่อนไหวมากจนเกินไป ยังดีที่เกราะส่วนนี้สามารถขยับตามแขนเวลาหมุนได้ โดยรวมจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดท่าทาง

ขยับได้ค่อนข้างกว้าง

ก้มมาข้างหน้าได้มากสุดเท่านี้

เงยไปข้างหลังได้มากสุดเท่านี้

Summary

"สาย Iron Man คอมิค ถ้าไม่ซื้อถือว่าพลาดครับ"


ไม่ซื้อถือว่าพลาด

ไม่ซื้อถือว่าพลาด

ไม่ซื้อถือว่าพลาด

 

Comments